ปัญหากล้อง iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max สั่นหนักมาก เพราะอะไร?

หลังจากทำการเปิดตัวไปได้ไม่นาน ก็พบรายงานปัญหาของผู้ใช้ iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max ที่พบกล้อง iPhone 14 ภาพสั่น และรวมไปถึงมีเสียงรบกวนออกมาตรงโมดูลกล้องเมื่อเปิดถ่าย ซึ่งเป็นทุกครั้งเมื่อเปิดใช้งานผ่านแอปโซเชียลต่างๆ เช่น

  • TikTok
  • Instagram
  • Snapchat
  • อื่นๆ

แม้เทคโนโลยีกล้องใหม่ของ iPhone 14 Pro จะน่าตื่นเต้นไม่น้อยสำหรับผู้ใช้ แต่สำหรับเหล่า Third-party แอปทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Instagram, Snapchat และอื่น ๆ ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่นัก เพราะมีผู้ใช้ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max บางกลุ่ม ไม่สามารถถ่ายภาพได้ เพราะแอป Camera มีอาการกล้องสั่นเอง รวมถึงมีเสียงรบกวนออกมาตรงโมดูลกล้องเมื่อเปิดถ่ายด้วย โดยหากเปิดฟีเจอร์ถ่ายภาพในแอป Instagram, TikTok ภาพพรีวิวในกล้องก็จะสั่นหนัก เมื่อพลิกดูที่เลนส์กล้องหลังก็พบว่าตัวเลนส์ก็สั่นหนักมากด้วย

ปัญหาระบบซอฟต์แวร์ iPhone 14

อาจเป็นอีกปัญหาที่ระบบซอฟต์แวร์บางประเภทผิดพลาดแน่นอน เพราะแอป Third-party เหล่านี้คงไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีกล้องใหม่ของ iPhone 14 ซีรีส์ ซึ่งในตอนนี้ปัญหากล้องสั่นของไอโฟนก็เริ่มมีให้เห็นเคสต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นแล้วในโซเชียล และคงต้องรออัปเดตซอฟต์แวร์ต่อไปของแอปเปิลมาแก้ปัญหานี้

ปัญหา กล้อง iPhone 14 เกิดขึ้นจากอะไร

สำหรับปัญหานั้นยังไม่แน่ไม่นอนว่าเกิดจากอะไร ผู้ใช้บางรายคาดว่าอาจมาจากการทำงานที่ไม่เข้ากันของ “ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซนเซอร์ รุ่นที่ 2” ของ iPhone 14 Pro Max กับแอปกล้องต่าง ๆ จึงทำให้ภาพและเลนส์กล้องสั่นนั่นเอง

แอปเปิลออกมายอมรับปัญหา iPhone 14 และหาทางแก้ไขแล้ว

โดยล่าสุดทางแอปเปิลได้ออกมายอมรับกับปัญหานี้แล้ว โดยบอกว่าปัญหาดังกล่าวไม่ได้มาจากฮาร์ดแวร์ จึงไม่จำเป็นต้องนำโทรศัพท์เข้ารับการซ่อมแต่อย่างใด และจะออกซอฟต์แวร์แก้ไขปัญหานี้ให้เร็วมากที่สุดในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าก็คือ iOS 16.0.2 โดยทางแอปเปิลไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมของปัญหาที่เกิดขึ้น แต่จุดแตกต่างที่สำคัญของกล้องหลัง iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max จากรุ่นก่อนหน้าคือชิปกันภาพสั่นรุ่นใหม่ จึงเป็นไปได้ว่าส่วนนี้มีการทำงานที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเปิดผ่านแอปอื่นๆ นั้นเอง

หากคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับมือมือถือสมาร์ทโฟน Apple iPhone

ที่ร้าน Tech Avenue เรารับดูแลและแก้ไขทุกปัญหาที่เกี่ยวกับ Apple iPhone ทุกรุ่นและทางร้านมีการการันตีความน่าเชื่อถือ ด้วยประสบการณ์ของร้านที่เปิดมายาวนานมากกว่า 15 ปี มีหน้าร้านจริงเปิดให้บริการ ที่ห้างชื่อดัง  ดังนั้นลูกค้าที่สะดวก สามารถ   walk in เข้าไปที่ร้านได้เลย ร้านของเรามีรีวิวของลูกค้าทั้งเก่าและใหม่เป็นจำนวนมาก ทั้งบน Web page และ Fan page บน Facebook รับรองเลยว่าคุณจะได้รับแต่ความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน ให้ทุกปัญหาของ iPhone ของคุณ จบลงที่เราร้าน Tech Avenue ยินดีให้บริการคุณจากใจ


Apple Watch (แอปเปิ้ลวอช) series 5 จอแตก เปลี่ยนร้านไหนดี ไม่ต้องรอ




เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

ปิดความเห็น บน ปัญหากล้อง iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max สั่นหนักมาก เพราะอะไร?

รีวิว iPhone 14 Plus ถูกใจสายจอใหญ่ แบตใช้ได้ยาวจุใจ

iPhone 14 Plus จึงนับว่าเข้ามาตอบโจทย์ในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่ต้องการใช้งาน iPhone ที่ได้จอใหญ่ 6.7 นิ้ว เท่ากับรุ่น Pro Max แต่ในขณะเดียวกันตัวเครื่องยังเบากว่า 14 Pro ทำให้เวลาถือใช้งานนั้นไม่ได้รู้สึกว่าหนักจนเกินไป แลกกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นด้วย

ข้อดี iPhone 14 Plus

  • หน้าจอ OLED 7 นิ้ว โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเป็นรุ่น Pro Max
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวๆ ตลอดวัน
  • การเชื่อมต่อรองรับทั้ง 5G, WiFi 6 และบลูทูธ 5.3
  • กล้องหน้า TrueDepth พร้อมออโต้โฟกัส

ข้อสังเกตของ iPhone 14 

  • ถ้าเป็นรุ่น iPhone 14 จะปรับปรุงจาก iPhone 13 ไม่มากนัก
  • หน้าจอยังไม่เป็น 120 Hz
  • ระบบชาร์จเร็วยังอยู่ที่ 20W เช่นเดิม

iPhone 14 Plus จะมากับหน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2278 x 1284 พิกเซล ให้ความละเอียดเม็ดสีที่ 458 ppi ความสว่างหน้าจอ 800 nits และเร่งขึ้นไปได้ถึง 1200 nits ในโหมด HDR เทียบเท่ากับจอของ iPhone 12 Pro Max

FaceID + TrueDepth Camera ขนาดเท่ากับ iPhone 13 Pro Max แต่ได้ออโต้โฟกัสเพิ่ม

กล้องหน้าแบบ TrueDepth ที่ให้มาปรับปรุงขึ้นมาให้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม เพิ่มเติมด้วยออโต้โฟกัส ทำให้สามารถถ่ายในระยะใกล้ได้มากขึ้น รวมถึงการถ่ายวิดีโอในโหมด Cinematic จากกล้องหน้า ใครที่ชอบถ่ายเซลฟี่น่าจะถูกใจไม่น้อย รอบตัวเครื่องยังมากับปุ่มเปิด-ปิดเสียง และปุ่มปรับระดับเสียงทางซ้าย รวมถึงถาดใส่นาโนซิมการ์ด ส่วนทางขวาเป็นปุ่มเปิด-ปิด หน้าจอ และเรียกใช้งาน Siri โดยมีพอร์ต Lightning ไว้เสียบชาร์จเช่นเดิม ที่สามารถชาร์จได้ 50% ใน 35 นาที จากอะแดปเตอร์ 20W

ระยะเวลาการใช้งานของมือถือจริง ๆ ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือความจุแบตเตอรี่และประสิทธิภาพของตัวชิปประมวลผลในเครื่อง ซึ่งรุ่น iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ก็มีการใช้ชิปตัวใหม่ A16 Bionic ที่สร้างบนสถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร ทำให้มีประสิทธิภาพในการประมวลผลดีขึ้น กินแบตน้อยลงกว่าเดิม ส่วนรุ่น iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ก็ยังคงใช้ชิป A15 Bionic ขนาด 5 นาโนเมตรอยู่ ทำให้ยังไม่มีประสิทธิภาพดีเท่ารุ่น Pro แต่ก็ยังเป็นชิปที่ใช้ได้ดีอยู่นั่นเอง

ดังนั้นก็ไม่ต้องห่วงว่าขนาดแบตที่เล็กลงในรุ่น iPhone 14 Pro Max จะทำให้ใช้งานต่อการชาร์จได้น้อยลง เพราะว่าตัวชิปใหม่นี้น่าจะประหยัดพลังงานมากขึ้นแน่นอน

หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับแบต iPhone

ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ เราคือคำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุดสำหรับคุณอย่างแน่นอน เนื่องจากร้านของเรา มีอะไหล่เครื่อง พร้อมบริการ ดังนั้น ลูกค้าที่นำเครื่องมาซ่อม จึงสามารถที่จะรอรับเครื่องกลับได้เลย ไม่ต้องเสียเวลารอ เอาเครื่องไว้ที่ร้าน มีรับประกันทุกงานซ่อม ทุกอาการเสียซ่อมได้จริง การันตีความน่าเชื่อถือ ด้วยประสบการณ์ของร้านที่เปิดมายาวนานมากกว่า 15 ปี มีหน้าร้านจริงเปิดให้บริการ ที่ห้างชื่อดัง  ดังนั้นลูกค้าที่สะดวก สามารถ   walk in เข้าไปที่ร้านได้เลย


จอทัชสกรีนมีปัญหา ซ่อมมือถือร้านไหนดี ส่งซ่อมสะดวก





ปิดความเห็น บน รีวิว iPhone 14 Plus ถูกใจสายจอใหญ่ แบตใช้ได้ยาวจุใจ

โทรศัพท์ OPPO เชื่อมต่อ WIFI หรือเล่นเน็ตไม่ได้ แก้ไขอย่างไร

โทรศัพท์ OPPO เชื่อมต่อ WIFI หรือเล่นเน็ตไม่ได้

หากตอนนี้คุณกำลังประสบพบเจอกับปัญหา โทรศัพท์มือถือ OPPO หา WIFI ไม่เจอ  หรือ มือถือ แท็บเล็ตของคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้ วันนี้เรามีวิธีการง่ายๆ ที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ซึ่งวิธีที่ว่านี้ได้รวบรวมมาจากประสบการณ์ปัญหาที่ทางเราเองมักพบเจอจากการดูแลลูกค้าของเราอยู่บ่อยๆ มาฝากกัน ซึ่งบางครั้งปัญหาเหล่านี้อาจจะเกิดได้มาจากหลายสาเหตุ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 สาเหตุหลักๆ ดังนี้

สาเหตุที่มือถือOPPOหา WIFI ไม่เจอ หรือ มือถือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้

1.เกิดจากระบบซอร์ฟแวร์ (Software) ของเครื่องเกิดบัคหรือค้างหรือไปเผลอตั้งค่าผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ

วิธีแก้ปัญหากรณีดังกล่าวมีหลายข้อดังนี้

  1. ให้คุณตรวจสอบมือถือก่อนว่าได้ไปเผลอเปิด “โหมดเครื่องบิน” ไว้รึเปล่า ซึ่งถ้าเปิดโหมดนี้ไว้ โทรศัพท์ของคุณจะไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้ ซึ่งถ้าเปิดไว้ก็ไปทำการปิดได้เลย อินเทอร์เน็ตก็จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
  2. ให้คุณลองรีสตาร์ทอุปกรณ์ (ปิด-เปิด เครื่องใหม่) ซึ่งบางครั้งอาจฟังดูเป็นวิธีง่ายๆ แต่บางครั้งก็ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดของการเชื่อมต่อได้นะ
  3. เปิดเมนูไปที่ “การตั้งค่า” จากนั้น ไปที่ ระบบไร้สายและเครือข่าย หรือ “การเชื่อมต่อ” จากนั้นไปที่เมนู อินเทอร์เน็ตมือถือ หรือข้อมูลเครือข่ายมือถือ บนอุปกรณ์บางรุ่น คุณอาจต้องเลือก “ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต” ก่อนจึงจะเห็นเมนู เปิดเน็ตมือถือ หากเปิดอยู่แล้ว ให้ลองปิดแล้วเปิดอีกครั้ง
  4. ลองทำการ Hard Reset มือถือ ดู โดยการกดปุ่ม ลดเสียงค้างไว้ + ปุ่ม Power จากนั้นเครื่องจะทำการรีสตาร์ทใหม่อีกครั้ง
  5. กด คืนค่าอุปกรณ์จากโรงงาน แต่เมื่อใช้วิธีนี้โทรศัพท์จะทำการรีเซตการตั้งค่าทุกอย่างที่เราตั้งเองกลับไปสู่การตั้งค่าที่มาจากโรงงาน (เหมือนกับตอนซื้อเครื่องมาใหม่ๆ) กรณีนี้ทางเราแนะนำให้คุณสำรองข้อมูลเครื่องไว้ก่อนด้วยนะ เพราะข้อมูลบางอย่างจะถูกลบไปด้วยนั่นเอง
  6. Role Back กลับไปสู่ OS เวอร์ชันก่อนหน้าจากการอัปเดตซอร์ฟแวร์รุ่นล่าสุดของเรา กรณีนี้เกิดจากการอัปเดตซอร์ฟแวร์ใหม่ แล้วตัวซอร์ฟแวร์นั้นมีปัญหานั่นเอง

2.เกิดจากตัวปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตเอง เช่น Router

วิธีแก้ปัญหากรณีดังกล่าวมีหลายข้อดังนี้

  1. ให้คุณลองตรวจสอบว่าโทรศัพท์เครื่องอื่นๆ สามารถเชื่อมต่อกับ WIFI ได้หรือไม่ หากมีเพียงเครื่องของคุณที่ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ก็แสดงว่ามีโอกาสสูงที่ปัญหาจะเกิดจากมือถือของคุณเอง แต่หากคนอื่นๆ ก็ไม่สามารถเชื่อมต่อได้แสดงว่า อาจจะเป็นที่ตัว Router ที่เสีย หรือ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้นๆ อาจจะขัดข้องอยู่ก็ได้
  2. ให้คุณลองรีสตาร์ท (ปิด – เปิด) ตัว Router โดยให้ไปกดปิดไว้ซัก 20 วินาที แล้วทำการกดเปิดใหม่ จากนั้นให้คุณลองเชื่อมต่อ WIFI ดูอีกครั้งว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่
  3. ลองตรวจสอบสายเชื่อมต่อที่เข้าสู่ Router ของคุณดูก่อน เช่น สายแลน หรือ สาย Fiber Optic ว่าได้หลวม หลุด หรือชำรุดอยู่หรือไม่

3.เกิดจากฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์เสียหายหรือชำรุด

กรณีนี้เกิดจากตัวเครื่องโทรศัพท์ของคุณเอง ซึ่งคุณสามารถทดสอบเองได้ง่ายๆ โดยหา WIFI ตัวอื่นๆ แล้วลองเชื่อมต่อดู ซึ่งถ้าหากเชื่อมไม่ได้เหมือนกัน หรือหา WIFI อื่นๆ ไม่เจอเลย แสดงว่าเครื่องของคุณนั้นอาจจะชำรุดหรือเกิดปัญหาภายในเครื่องแล้วนั่นเอง ซึ่งกรณีนี้ทางเราแนะนำให้คุณ นำมือถือเข้าศูนย์บริการ หรือร้านซ่อมที่น่าเชื่อถือตรวจสอบให้จะดีที่สุดเนื่องจากมีหลายร้านให้เลือก การเลือกร้านที่มีคุณภาพและประสบการณ์การทำงานมานานนั้นจะมีความน่าเชื่อถือกว่าร้านที่เปิดใหม่นั้นเอง

ร้าน Tech Avenue เทคอเวนิว บริการทุกงานซ่อม ทุกระดับประทับใจ เพราะรอยยิ้มและความพึงพอใจของคุณ คือความสุขที่สุดในการทำงานของเรา ดังนั้นเมื่อมือถือสมาร์ทโฟน Huawei ของคุณเกิดปัญหา ให้นึกถึงเราเป็นอันดับแรก ร้าน Tech Avenue เทคอเวนิว

ซ่อมมือถือ แถวไอทีมอลล์ ฟอร์จูน ร้านไหนดี เชื่อถือได้ ราคาไม่แพง



จอทัชสกรีนมีปัญหา ซ่อมมือถือร้านไหนดี ส่งซ่อมสะดวก


ซ่อมมือถือแถว ตลาดนัดรถไฟ ร้านไหนดี มั่นใจด้วยอะไหล่คุณภาพ





เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

ปิดความเห็น บน โทรศัพท์ OPPO เชื่อมต่อ WIFI หรือเล่นเน็ตไม่ได้ แก้ไขอย่างไร

10 อาการเสียยอดนิยม และวิธีแก้ไข โทรศัพท์มือถือ Samsung

อาการเสีย และวิธีแก้ไข โทรศัพท์มือถือ Samsung

ร้านซ่อมมือถือ ย่านสาทร ส่งซ่อมง่ายๆ ไม่ต้องไปร้าน

10 อาการเสีย และวิธีแก้ไขเบื้องต้น ของมือถือ Huawei มีดังต่อไปนี้

1.  โทรศัพท์ Samsung 

สิ่งแรกที่หลายคนทำเมื่อได้สมาร์ทโฟนมาเลยก็คือ การติดฟิล์มป้องกันรอยที่หน้าจอ ซึ่งฟิล์มที่ได้รับความนิยมมากก็คือ ฟิล์มกระจก เพราะนอกจากจะกันรอยได้แล้ว หากตกไม่แรง ฟิล์มกระจกยังสามารถช่วยป้องกันโทรศัพท์หน้าจอแตกได้อีกด้วย โดยเมื่อฟิล์มกระจกแตก ส่วนมากจะไม่แตกทั้งแผ่นนะ แต่จะร้าวๆ แค่บางส่วนที่กระแทกแรง เพราะด้วยตัวกาวที่ยังยึดไว้อยู่นั้นเอง Samsung กระจกหน้าจอแตก ซึ่งถ้าแตกลักษณะนี้คุณยังสามารถใช้งาน สัมผัสหน้าจอได้อย่างตามปกตินั้นเอง

วิธีแก้ปัญหามือถือ Samsung จอด้านในแตก

เนื่องจากฟิล์มกระจกซ่อมไม่ได้ แต่มีราคาถูกคุณเลยสามารถเปลี่ยนฟิล์มกระจกได้ทั้งแผ่น เพราะงั้นเปลี่ยนเลย! รับรองเลยว่าสมาร์ทโฟนของคุณจะกลับมาเหมือนใหม่อย่างแน่นอน

2.  โทรศัพท์ Samsung ปุ่มกดไม่ได้ กดไม่ลง

ถึงแม้ว่าปัจจุบันปุ่มบนมือถือจะเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ แต่มือถือส่วนใหญ่ก็ยังคงต้องใช้ปุ่มอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดหรือเปิดหน้าจอ รวมทั้งปุ่ม Volume สำหรับปรับระดับเสียง ซึ่งในบางครั้งปุ่มก็อาจมีปัญหากดไม่ติด หรือกดบ่อย ๆ จนปุ่มเสีย จะรีสตาร์ตเครื่องก็กดไม่ได้ น่าจะเป็นปัญหาที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายๆ ท่าน คงจะเคยเจอะเจอมากันบ้างแล้ว กับอาการ เครื่องเอ๋อ เครื่องค้าง ที่สามารถเกิดขึ้นได้ วันนี้เรามีวิธีแก้ปัญหาปุ่มบนมือถือ Android แบบเบื้องต้นมาฝากกัน ถ้าสามารถแก้ปัญหาเองได้ โทรศัพท์ Samsung ปุ่มกดไม่ได้ กดไม่ลง  ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปส่งศูนย์ซ่อมเลย

วิธีแก้ปัญหามือถือ Samsung ปุ่มกดไม่ได้ กดไม่ลง

  • ทำความสะอาดปุ่ม ที่กดไม่ได้ หรือกดไม่ลง

ถึงแม้ว่าปุ่มจะเสียจริง ๆ แต่ถ้ายังไม่ว่างไปส่งซ่อมหรือยังไม่อยากซ่อม ก็สามารถทำปุ่มเสมือนบนหน้าจอมาใช้แทนได้เช่นกัน

  • ด้วยการติดตั้งแอปพลิเคชัน Android Accessibility Suite ตามที่ได้กล่าวไว้ในข้อ 1
  • ถ้าใช้ Android 9 ขึ้นไปจะมีติดเครื่องอยู่แล้ว
  • จากนั้นให้เข้าไปที่ Settings > Accessibility จะสามารถตั้งค่าให้แสดงปุ่มเสมือนแทนปุ่ม Power, Volume และปุ่มอื่น ๆ บนหน้าจอได้

3.  โทรศัพท์ Samsung กล้องเสีย  กล้องไม่ทำงาน

สำหรับใครหลายๆ คน ที่ชอบการเซลฟี่เป็นชีวิตจิตใจ คงจะเป็นเรื่องไม่ดีแน่หากโทรศัพท์มือถือของคุณ กล้องเสีย หรือกล้องทำงานไม่ได้ อาการเสียของกล้องโทรศัพท์ของคุณอาจจะมีอาการดังนี้

  • เปิดกล้องหน้าแต่ภาพดำมืด เปิดไม่ได้
  • เปิดกล้องหน้าแล้ว ถ่ายรูปออกมาไม่ชัด
  • เปิดกล้องหน้า แล้วการสั่งการช้ามาก

วิธีแก้ปัญหามือถือ Samsung กล้องเสีย  กล้องไม่ทำงาน

  • อัปเดตแอป

1. เปิดแอป Google Play Store Play Store ในโทรศัพท์
2. แตะเมนู เมนู จากนั้น แอปและเกมของฉัน
3. หากต้องอัปเดตแอป ให้แตะอัปเดต

4.  โทรศัพท์ Samsung แบตเสื่อม แบตบวม

หากใครเคยนำมือถือไปเปลี่ยนแบตฯ ใหม่ และหันไปใช้แบตเตอรี่ปลอมหรือแบตเตอรี่ราคาถูกแทน นี่ก็เป็นอีกสาเหตุแห่งความเสี่ยงเช่นกัน ทางที่ดีคุณควรเลือกแบตเตอรี่ยี่ห้อที่เชื่อถือได้ และมีมาตรฐาน มอก. ในการจัดจำหน่ายจะดีมากกว่าเพื่อความปลอดภัยกับตัวคุณเองด้วยนะ

วิธีแก้ปัญหามือถือ Samsung แบตเสื่อม แบตบวม

เมื่อคุณทราบว่ามือถือของคุณแบตเตอรี่บวมแน่นอน ทางแก้ปัญหา คือ ปิดเครื่อง ห้ามชาร์จไฟ และนำเครื่องไปเปลี่ยนแบตเตอรี่มือถือเป็นของใหม่ ให้เลือกใช้แบตเตอรี่จากศูนย์บริการของแบรนด์นั้น ๆ หรือเลือกแบตเตอรี่ที่มีมาตรฐาน ยี่ห้อไว้ใจได้ ผ่านการรับรองจาก มอก. เราแนะนำให้คุณหาร้านที่มีการรับประกันการซ่อม ด้วยจะดีมากเลยนะ เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย โดยหากพบว่ามือถือซ่อมแล้วยังมีปัญหาและอยู่ภายในระยะเวลาการรับประกันก็สามารถนำมาเคลมได้นั้นเอง

5.  โทรศัพท์ Samsung ชาร์ทไฟไม่เข้า

สำหรับในกรณีที่แบตเสื่อม แน่นอนว่าถ้าหากใช้มือถือมานานแล้ว หรือใช้จนเครื่องร้อนบ่อยๆ ชาร์จแบบผิดวิธี ไปจนถึงการใช้สายปลอม แบตบวม อะไรก็ตามที่เสี่ยงต่อการทำให้แบตเตอรี่เสื่อม เมื่อแบตเสื่อมไปแล้ว ไม่ว่าจะชาร์จให้นานแค่ไหนมันก็ไม่เข้า หรือบางครั้ง ชาร์จจนเต็มไปแล้ว พอถอดออกมาสักพัก ก็ลดฮวบลงไปเหมือนไม่มีการชาร์จใดใดเกิดขึ้น

วิธีแก้ปัญหามือถือ Samsung ชาร์ทไฟไม่เข้า

ถ้าเป็นมือถือรุ่นเก่า ๆ หากมีอาการแบตเสื่อมนั้นจะค่อนข้างได้เปรียบเพราะว่าอาจจะยังสามารถแกะฝาหลังถอดแบตเตอรี่ออกมาเปลี่ยนเองได้แบบชิล ๆ แต่ถ้าเป็นมือถือรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ที่ไม่สามารถถอดแบตเตอรี่เปลี่ยนเองได้ก็คงต้องเอาไปให้ที่ร้านหรือที่ศูนย์เปลี่ยนให้สถานเดียว

6.  โทรศัพท์ Samsung เชื่อมต่อ WIFI หรือเล่นเน็ตไม่ได้

หากตอนนี้คุณกำลังประสบพบเจอกับปัญหา โทรศัพท์มือถือของคุณหา WIFI ไม่เจอ หรือ มือถือ แท็บเล็ตของคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้ วันนี้เรามีวิธีการง่ายๆ ที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ซึ่งวิธีที่ว่านี้ได้รวบรวมมาจากประสบการณ์ปัญหาที่ทางเราเองมักพบเจอจากการดูแลลูกค้าของเราอยู่บ่อยๆ มาฝากกัน ซึ่งบางครั้งปัญหาเหล่านี้อาจจะเกิดได้มาจากหลายสาเหตุ ถ้าหากเกิดจากระบบซอร์ฟแวร์ (Software) ของเครื่องเกิดบัคหรือค้างหรือไปเผลอตั้งค่าผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ

วิธีแก้ปัญหามือถือ Samsung เชื่อมต่อ WIFI หรือเล่นเน็ตไม่ได้

  • เกิดจากตัวปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตเอง เช่น Router

1. ให้คุณตรวจสอบมือถือก่อนว่าได้ไปเผลอเปิด “โหมดเครื่องบิน” ไว้รึเปล่า ซึ่งถ้าเปิดโหมดนี้ไว้ โทรศัพท์ของคุณจะไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้ ซึ่งถ้าเปิดไว้ก็ไปทำการปิดได้เลย อินเทอร์เน็ตก็จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
2. ให้คุณลองรีสตาร์ทอุปกรณ์ (ปิด-เปิด เครื่องใหม่) ซึ่งบางครั้งอาจฟังดูเป็นวิธีง่ายๆ แต่บางครั้งก็ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดของการเชื่อมต่อได้นะ
3. เปิดเมนูไปที่ “การตั้งค่า” จากนั้น ไปที่ ระบบไร้สายและเครือข่าย หรือ “การเชื่อมต่อ” จากนั้นไปที่เมนู อินเทอร์เน็ตมือถือ หรือข้อมูลเครือข่ายมือถือ บนอุปกรณ์บางรุ่น คุณอาจต้องเลือก “ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต” ก่อนจึงจะเห็นเมนู เปิดเน็ตมือถือ หากเปิดอยู่แล้ว ให้ลองปิดแล้วเปิดอีกครั้ง
4. ลองทำการ Hard Reset มือถือ ดู โดยการกดปุ่ม ลดเสียงค้างไว้ + ปุ่ม Power จากนั้นเครื่องจะทำการรีสตาร์ทใหม่อีกครั้ง
5. กด คืนค่าอุปกรณ์จากโรงงาน แต่เมื่อใช้วิธีนี้โทรศัพท์จะทำการรีเซตการตั้งค่าทุกอย่างที่เราตั้งเองกลับไปสู่การตั้งค่าที่มาจากโรงงาน (เหมือนกับตอนซื้อเครื่องมาใหม่ๆ) กรณีนี้ทางเราแนะนำให้คุณสำรองข้อมูลเครื่องไว้ก่อนด้วยนะ เพราะข้อมูลบางอย่างจะถูกลบไปด้วยนั่นเอง
6. Role Back กลับไปสู่ OS เวอร์ชันก่อนหน้าจากการอัปเดตซอร์ฟแวร์รุ่นล่าสุดของเรา กรณีนี้เกิดจากการอัปเดตซอร์ฟแวร์ใหม่ แล้วตัวซอร์ฟแวร์นั้นมีปัญหานั่นเอง

7.  โทรศัพท์ Samsung เสียงไม่ดัง เสียงไม่ออก

Huawei เสียงไม่ดัง เสียงไม่ นั้นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่เริ่มต้นในการเช็คความผิดปกติของโทรศัพท์ที่ไม่มีเสียง เสียงหาย โดยกรณีที่ไม่มีเสียงเลย ให้ลองเข้าไปดูสไลด์บาร์ใน Control Center ว่ามีแถบเลื่อนอยู่หรือไม่ ลองเลื่อนให้ไปที่แถบสไลด์ ว่าปรับได้ตามปกติหรือไม่ รวมถึงกดปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงจากด้านข้างของมือถือ เพื่อดูว่าระดับเสียงถูกลดลงไปจนไม่มีเสียงหรือเสียงเบาหรือไม่ และตรวจเช็คการทำงานของปุ่มว่าทำงานได้ตามปกติ แต่ถ้ากดปุ่มแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น นั่นก็หมายถึงเกิดความเสียหายที่ปุ่มควบคุมและหาทางแก้ไขต่อไป

วิธีแก้ปัญหามือถือ Samsung เสียงไม่ดัง เสียงไม่ออก

วิธีแก้  Samsung เสียงไม่ดัง เสียงไม่ออก ในบางครั้งคุณอาจจะเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นอยู่อย่างเช่น การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บลูทูธ ไม่ว่าจะเป็น ลำโพงหรือหูฟังบลูทูธก็ตาม เพราะบางครั้งเมื่อเชื่อมต่อไปแล้ว ไม่ได้มีการ Disconnect ก็จะไม่มีเสียงเกิดขึ้นที่มือถือ แต่จะไปดังที่ปลายทางแทน ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายๆ คนมักจะลืมไป เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เราใช้กันบ่อยยิ่งขึ้นในปัจจุบัน บางคนใช้หูฟังอยู่บนรถ แต่ทิ้งเอาไว้ในรถหรือบางทีเปิดลำโพงบลูทูธอยู่ในห้องนอน แล้วออกมารับสายนอกบ้าน การที่ยังเชื่อมต่ออยู่ ก็ทำให้เสียงออกที่ลำโพงในห้องเช่นกัน วิธีการแก้ไขก็เพียงเข้าไปที่การเชื่อมต่อ Bluetooth ที่อยู่ใน Setting หรือแตะไปที่ไอคอนที่หน้า Control Center เพื่อปิดการทำงานเท่านั้น

8.  โทรศัพท์ Samsung ตกน้ำ น้ำหกใส่

ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุมือถือตกน้ำ ที่ต้องท่องให้ขึ้นใจก่อนจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งสิ่งที่ควรปฏิบัติ ก็เป็นวิธีการโดยทั่วไปที่เข้าใจไม่ยาก แต่สิ่งที่สำคัญก็คือข้อห้ามต่างๆ ที่ควรรู้เอาไว้ เพราะข้อห้ามส่วนใหญ่แล้ว ล้วนเป็นความเข้าใจผิดที่หลายๆ คนยังทำกันอยู่ทั้งสิ้น

วิธีแก้ปัญหามือถือ Samsung ตกน้ำ น้ำหกใส่ และสิ่งที่ห้ามทำ

1. รีบปิดมือถือ รวมทั้งนำสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่ติดอยู่กับมือถือออกให้หมด
2. เช็คทุกพื้นผิวให้สะอาดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์และเจลทำความสะอาด
3. ทำให้มือถือแห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะนั้น
4. ถอดทุกอย่างออก ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่ถ้าถอดได้ ซิมการ์ด หรือสายหูฟังอุปกรณ์ต่างๆ
5. ตั้งมือถือไว้ในแนวตั้ง ถ้าถอดแบตเตอรี่ออกไม่ได้

9.  โทรศัพท์ Samsung ไม่อ่านซิม

วันนี้เราจะขอเล่าปัญหาทั่วไป สำหรับคนที่ใช้มือถือทุกแบบไม่ว่าจะปุ่มกดหรือจอสัมผัสรุ่นใหม่อาจจะมีโอกาสเจอได้บ้าง นั่นก็คือ ปัญหาเครื่องไม่อ่าน ไม่เจอซิม หรือสัญญาณไม่ขึ้น เป็นอีกหนึ่งในปัญหาของผู้ใช้มือถือในยุคนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของสัญญาณโทรศัพท์ แม้ว่าเราจะเข้าสู่ยุคที่เป็นสมาร์ทโฟนไปแล้วก็ตาม แต่ยังไงก็ต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า Sim Card เพื่อใช้งานโทรศัพท์และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 3G, 4G LTE อยู่ดี โดยปัญหาที่พบบ่อยก็คือ หน้าจอมือถือขึ้นว่า “ไม่มีบริการ” ทั้งๆ ที่เราก็ใส่ซิมการ์ดไปแล้วการตรวจเช็คจะแยกออกเป็นสองส่วน คือ ไม่เจอตัวซิมหรือไม่อ่านซิม และ อ่านซิมแต่ไม่เจอสัญญาณที่ควรจะเป็น (3G, 4G) ไปดูกันเลย

วิธีแก้ปัญหามือถือ Samsung ไม่อ่านซิม

• เช็คว่าใส่ซิมถูกหรือยัง
• ห้ามใส่ผิดโดยเด็ดขาดเพราะตัวช่องเสียบจะเสียถาวรและซิมอาจจะพังได้
• ตรวจสอบที่การตั้งค่าในเครื่อง
โดยทั่วไปอยู่ประมาณ “การตั้งค่า > การจัดการซิม” ให้ดูว่ามีชื่อผู้ให้บริการขึ้นหรือเปล่า
และมีการ “ปิดการใช้งานซิม” หรือเปล่า หลายๆยี่ห้อจะมีปุ่มเอาไว้เปิดปิดซิม ลองกดเปิดดู
• ถ้ายังไม่ได้ให้แกะซิมออกมาทำความสะอาดที่แผ่นทองแดง จะใช้แอลกอฮอล์หรือยางลบถูก็ได้ แล้วลองใส่กลับเข้าไปใหม่ ถ้าเครื่องอ่านซิมก็เรียบร้อย
• ถ้ายังไม่ได้อีกให้แกะซิมไปใส่ในเครื่องอื่นเพื่อเปรียบเทียบดู ถ้าใส่เครื่องอื่นแล้วก็ยังไม่อ่านซิมเหมือนเดิม ตัวซิมน่าจะเสีย ให้ติดต่อผู้ให้บริการเพื่อขอเปลี่ยนซิมใหม่ เบอร์เดิม แต่รายชื่อในซิมเก่าจะไม่สามารถคัดลอกมาในซิมใหม่ได้เพราะซิมเก่ามันไม่อ่าน
• ถ้าใส่เครื่องอื่นแล้วซิมอ่านได้ ใช้งานได้ แสดงว่าช่องเสียบซิมในเครื่องเราเสีย อาจจะต้องส่งเครื่องเคลม(ถ้ามีประกัน) หรือส่งซ่อมตามร้าน หรืออาจจะลองย้ายไปใส่ในช่องอื่น(ถ้าเครื่องรองรับ 2 ซิม)

10.  โทรศัพท์ Samsung เครื่องร้อน แบตมือถือร้อน

หลายคนอาจกำลังประสบปัญหา Samsung เครื่องร้อน แบตมือถือร้อน เกี่ยวกับการใช้งานมือถือหรือแท็บเล็ตแล้วมีอาการมือถือร้อน ซึ่งสาเหตุหลักๆ นั้นมักจะเกิดจาก การใช้งานมือถือเป็นเวลาติดต่อกันนานจนเกินไป เช่น การเล่นเกม3D ดูหนัง ดูละคร ดูคลิปมือถือ ฟังเพลง เป็นต้น จึงส่งผลให้เหล่าหน่วยประมวลผลหรือหน่วยกราฟิกในมือถือนั้นทำงานหนักและเกิดความร้อนตามมานั่นเอง แต่ก็มีในบางกรณีที่พบว่ามือถือร้อนเร็วผิดปกติซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากปัญหาอื่นด้วย ดังนั้นวันนี้เราจึงได้นำเอาสาเหตุและวิธีแก้ปัญหามือถือร้อนมาฝากกัน ไปดูกันเลย

วิธีแก้ปัญหามือถือ Samsung ร้อน

  • ทำการลองเปิด-ปิด เครื่องใหม่เมื่อเครื่องร้อน

บางครั้งเครื่องอาจเกิดการบัคหรือการค้างของแอปพลิเคชันบางตัว จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้โทรศัพท์มือถือของคุณเกิดการดึง CPU มาใช้งานในปริมาณมากๆ นั้น จึงส่งผลให้เครื่องทำงานหนักและเกิดอาการเครื่องร้อนได้เช่นกัน

ร้าน Tech Avenue เทคอเวนิว บริการทุกงานซ่อม ทุกระดับประทับใจ เพราะรอยยิ้มและความพึงพอใจของคุณ คือความสุขที่สุดในการทำงานของเรา ดังนั้นเมื่อมือถือสมาร์ทโฟน Huawei ของคุณเกิดปัญหา ให้นึกถึงเราเป็นอันดับแรก ร้าน Tech Avenue เทคอเวนิว

ซ่อมมือถือ แถวไอทีมอลล์ ฟอร์จูน ร้านไหนดี เชื่อถือได้ ราคาไม่แพง



จอทัชสกรีนมีปัญหา ซ่อมมือถือร้านไหนดี ส่งซ่อมสะดวก


ซ่อมมือถือแถว ตลาดนัดรถไฟ ร้านไหนดี มั่นใจด้วยอะไหล่คุณภาพ





เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

ปิดความเห็น บน 10 อาการเสียยอดนิยม และวิธีแก้ไข โทรศัพท์มือถือ Samsung

โทรศัพท์ POCOPHONE ชาร์ทไฟไม่เข้า ทำยังไงดี

โทรศัพท์ POCOPHONE ชาร์ทไฟไม่เข้า

ปัญหาที่มักจะกวนใจใครหลายๆ คน มาตั้งแต่เนิ่นนาน สำหรับคนที่ใช้งานมือถือทั่วๆไป ที่มักจะต้องเจอนั้นก็คือปัญหาโทรศัพท์ POCOPHONE ชาร์ทไฟไม่เข้า ปัญหานี้เกิดมาจากหลายสาเหตุอาจจะเนื่องจากการใช้งานมือถือ สำหรับทุกรุ่น และทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็น Android หรือ iPhone ก็ต้องเคยเจอกับปัญหาเหล่านี้กันทั้งนั้นวันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิธีแก้ไขเบื้องต้น และสาเหตุหลักๆ ที่มักจะทำให้ชาร์จแบตไม่เข้ามาฝากกัน ไปดูกันเลยว่าเกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง

1.  สายชาร์จเสีย/ สายปลอม

ปัญหาการชาร์จแบตไม่เข้า เนื่องจากสายชาร์จบริเวณส่วนข้อต่อจากหัวและสายมักจะขาดก่อนเสมอ อีกอย่างที่ทำให้ชาร์จไม่ได้ ก็คือสายเชื่อมต่อภายในขาดอันนี้ก็เกิดขึ้นได้บ่อยและมองออกยากมาก รวมไปถึงสายที่เป็นของปลอม ความจริงแล้วแม้แต่สายที่ให้กำลังไฟในการชาร์จ ของแท้กับของปลอมก็ไม่เหมือนกัน สายปลอมนั้นนอกจะทำให้ชาร์จได้ช้า และไม่เข้าได้แล้ว ยังทำให้แบตเตอรี่ของมือถือเสื่อมได้อีกด้วย

วิธีแก้ไขเบื้องต้น

ถ้าหากเกิดปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ก็ลองเปลี่ยนสายชาร์จดูก่อน แต่แนะนำให้เลือกใช้เป็นสายชาร์จที่ได้มาตรฐานหรือใช้ของแท้ เพราะถึงแม้จะมีราคาแพงกว่าแต่ก็มีคุณภาพและมีความปลอดภัยมากกว่า

2.  ช่องเสียบ USB ชื้น หรือ สกปรก

ถึงแม้ว่ามือถือในปัจจุบันจะสามารถกันน้ำได้ดีอยู่ในระดับนึงแล้ว แต่ความชื้นและสิ่งสกปรก ที่จะเข้าไปอยู่ในช่อง USB นั้น ยังคงเกิดขึ้นได้เสมอ และยังรวมไปถึงเศษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนม เศษฝุ่น ดิน อะไรก็ตามที่เข้าไปติดอยู่ข้างใน แล้วไม่ทันได้ระวัง ก็ไปเสียบหัวชาร์จเข้าไปอีก ก็ยิ่งทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าเดิม ส่งผลให้ชาร์จไม่เข้า และถ้ายิ่งปล่อยไว้นานๆ ก็อาจจะทำให้ช่องเสียบ USB พังไปเลย

วิธีแก้ไขเบื้องต้น

ถ้าหากมือถือขึ้นเตือนเป็นรูปหยดน้ำ ให้ลองพักเครื่องให้แห้งก่อน แต่ห้ามใช้ไดร์เป่าผมเป่านะ ให้เป่าด้วยลมเย็นจนกว่าจะแห้งและลองชาร์จดู แต่ถ้าแห้งแล้วยังไม่ได้อีก ต้องส่งซ่อมเพื่อเปลี่ยนอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนถ้ามีเศษฝุ่น เศษผ้าที่เข้าไปให้ใช้ไม้จิ้มฟันหรือแปรงสีฟันจิ้ม ๆ ขัด ๆ อย่างเบามือเพื่อเป็นการทำความสะอาดเอาสิ่งสกปรกออกไปเท่านี้ก็เรียบร้อย

3.  แบตเตอรี่เสื่อม

สำหรับในกรณีที่แบตเสื่อม แน่นอนว่าถ้าหากใช้มือถือมานานแล้ว หรือใช้จนเครื่องร้อนบ่อยๆ ชาร์จแบบผิดวิธี ไปจนถึงการใช้สายปลอม แบตบวม อะไรก็ตามที่เสี่ยงต่อการทำให้แบตเตอรี่เสื่อม เมื่อแบตเสื่อมไปแล้ว ไม่ว่าจะชาร์จให้นานแค่ไหนมันก็ไม่เข้า หรือบางครั้ง ชาร์จจนเต็มไปแล้ว พอถอดออกมาสักพัก ก็ลดฮวบลงไปเหมือนไม่มีการชาร์จใดใดเกิดขึ้น

วิธีแก้ไขเบื้องต้น

ถ้าเป็นมือถือรุ่นเก่า ๆ หากมีอาการแบตเสื่อมนั้นจะค่อนข้างได้เปรียบเพราะว่าอาจจะยังสามารถแกะฝาหลังถอดแบตเตอรี่ออกมาเปลี่ยนเองได้แบบชิล ๆ แต่ถ้าเป็นมือถือรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ที่ไม่สามารถถอดแบตเตอรี่เปลี่ยนเองได้ก็คงต้องเอาไปให้ที่ร้านหรือที่ศูนย์เปลี่ยนให้สถานเดียว

ทำตามแล้ว มือถือชาร์จไม่เข้า อยู่ดี

นี้คือวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อชาร์จไฟมือถือไม่เข้า ซึ่งหากลองทำตามทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้วยังไงก็ยังชาร์จไม่เข้าอยู่ดี สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำคือการส่งมือถือเข้าศูนย์หรือเข้าร้านซ่อมมือถือ เพื่อให้ช่างตรวจสอบว่าทำไมถึงชาร์จไม่เข้า ห้ามแกะเครื่องหาสาเหตุด้วยตัวเอง เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้านั้นหากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอาจจะเกิดอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สินได้ ดังนั้นคุณควรเลือกร้านที่เชื่อถือได้ และมีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะด้วย

หากทำมาทั้งหมดแล้วยังไม่ดีขึ้น เราแนะนำให้คุณนำโทรศัพท์มือถือของคุณไปที่ศูนย์ซ่อมโทรศัพท์มือถือที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อลองให้เค้าเช็คอาการว่าโทรศัพท์มือถือของเราเป็นอะไรกันแน่ มีสาเหตุมาจากอะไรนั้นเอง  ถ้าหากลองทุกวิธีแล้วปัญหายังไม่หายไป ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ รับตรวจเช็คอาการของทุกอาการ ไม่ว่าเครื่องของคุณกำลังเจอปัญหาอะไรก็ตาม เราสามารถให้คำปรึกษากับคุณได้ทุกปัญหา เนื่องจากประสบการณ์ที่เราดำเนินงานด้านนี้มามากกว่า 15 ปี พร้อมทีมช่างที่ได้รับการอบรมทางด้านนี้มาโดยเฉพาะ

3 วิธี ง่ายๆ เช็ค iPhone (ไอโฟน) เมื่อชาตจ์แบตไม่เข้า



ซ่อมมือถือ แถวโซน เอสพลานาด ร้านไหนดี ซ่อมเร็ว รอรับเครื่องได้เลย


ส่งมือถือไปซ่อม เเค่เรียก ลาล่ามูฟ ( Lalamove ) ง่ายนิดเดียว ราคาเริ่มต้นเพียง 35 บาท





เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

ปิดความเห็น บน โทรศัพท์ POCOPHONE ชาร์ทไฟไม่เข้า ทำยังไงดี

โทรศัพท์ Redmi ตกน้ำ น้ำหกใส่ มีวิธีแก้ไขหรือไม่

 น้ำหกใส่

ไม่ว่ามือถือจะแข็งแรงทนทานขนาดไหน หากเป็นรุ่นที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้กันน้ำ ‘น้ำ’ ก็ถือเป็นจุดอ่อนของมือถือเสมอ ซึ่งจะมีผลกับพอร์ตการใช้งาน ช่องแจ๊คเสียบหูฟัง และลำโพงทันที นอกจากนี้ น้ำจะไหลไปยังแผงวงจรทำให้เกิดพลังงานความร้อนสูงกว่าปกติจนเกิดอาการไหม้อีกด้วย หากโทรศัพท์ Redmi ตกน้ำ น้ำหกใส่ คุณจะต้องทำอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมีข้อมูล เคล็ดลับ วิธีแก้ไขต่างๆให้ทุกคนได้ลองศึกษากันคะ

เรื่องหนึ่งที่ควรรู้ไว้ก็คือ ประเภทของน้ำที่ตกลงไป

ถึงแม้ว่าการทำสมาร์ทโฟนตกส้วมอาจจะดูสกปรกอย่างรุนแรง แต่สิ่งที่แย่จริงๆ คือการให้มือถือที่ไม่ได้กันน้ำไปสัมผัสกับน้ำทะเล เพราะน้ำเค็มมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนมากกว่าน้ำจืดมาก เปอร์เซ็นต์การพ้นขีดอันตรายแก่ชีวิตของมือถือก็จะต่ำลงไปอีก

สิ่งที่ควรจะรีบทำเมื่อโทรศัพท์ตกน้ำ

ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุมือถือตกน้ำ ที่ต้องท่องให้ขึ้นใจก่อนจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งสิ่งที่ควรปฏิบัติ ก็เป็นวิธีการโดยทั่วไปที่เข้าใจไม่ยาก แต่สิ่งที่สำคัญก็คือข้อห้ามต่างๆ ที่ควรรู้เอาไว้ เพราะข้อห้ามส่วนใหญ่แล้ว ล้วนเป็นความเข้าใจผิดที่หลายๆ คนยังทำกันอยู่ทั้งสิ้น

ขั้นตอนการปฐมพยาบาลมือถือเบื้องต้น

  1. รีบปิดมือถือ รวมทั้งนำสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่ติดอยู่กับมือถือออกให้หมด
  2. เช็คทุกพื้นผิวให้สะอาดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์และเจลทำความสะอาด
  3. ทำให้มือถือแห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะนั้น
  4. ถอดทุกอย่างออก ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่ถ้าถอดได้ ซิมการ์ด หรือสายหูฟังอุปกรณ์ต่างๆ
  5. ตั้งมือถือไว้ในแนวตั้ง ถ้าถอดแบตเตอรี่ออกไม่ได้

สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดเมื่อโทรศัพท์ตกน้ำ แต่ดันเป็นที่นิยมในการทำด้วยความเข้าใจผิดๆ

  1. ห้ามอบมือถือด้วยไมโครเวฟเด็ดขาด เพราะมือถือไม่ใช่อาหาร และเสี่ยงต่อไฟไหม้อีกด้วย
  2. ห้ามนำมือถือไปแช่ช่องแข็ง เมื่อน้ำแข็งละลาย ก็กลายเป็นน้ำเข้าไปในมือถืออยู่ดี
  3. ห้ามใช้ไดร์เป่าผม เป่าน้ำให้แห้งเด็ดขาด เนื่องจากความร้อนจากไดร์ จะทำให้แผงวงจรไหม้ได้
  4. ห้ามใช้ไอร้อนจากเครื่องทำความร้อนต่างๆ ทำให้แห้ง เนื่องจากความรอนไม่ว่าจะมากหรือน้อย ก็มีสิทธิ์ทำให้แผงวงจรไหม้ได้เหมือนกัน
  5. ห้ามนำไปแช่ข้าวสาร แม้จะมีความเชื่อว่าข้าวสารจะช่วยดูดความชื้น แต่ผลการวิจัยก็ออกมาว่า มันก็ไม่ได้เร็วพอที่จะช่วยชีวิตมือถือจากการกัดกร่อนของน้ำอยู่ดีนะ

ขั้นตอนต่อไป ส่งศูนย์บริการหรือร้านซ่อมโทรศัพท์ที่น่าเชื่อถือ

เนื่องจากการจะทำให้มือถือแห้งด้วยตัวเอง จริงๆ แล้วนั้น เราไม่สามารถทำได้ดีมากเท่าไหร่ เพราะจุดที่น้ำไปสร้างความเสียหาย อยู่ในส่วนของมือถือที่ปกติแล้วผู้ใช้งานอย่างเราๆ เข้าไปไม่ถึง เราแนะนำให้คุณส่งหามืออาชีพ ร้านซ่อมโทรศัพท์ที่น่าเชื่อถือ ให้เค้าดูแลให้เราจะดีกว่า และดูเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกับมือถือสุดที่รักของเรามากที่สุด เพราะถ้าวงจรของมือถือไหม้ไปเรียบร้อยแล้ว (เปิดไม่ติด) ลองเช็คประกันสินค้าก่อนเลย ถ้ายังไม่หมดและเงื่อนไขประกันครอบคลุมเรื่องความเสียหายจากน้ำก็ถือว่ารอดตัวไป แต่ถ้าไม่มีประกันใดๆ ก็แน่นอนว่า ต้องเสียค่าซ่อม ค่าอะไหล่กันไปตามขั้นตอน แต่ถ้ามือถือยังเปิดติด ก็ถือว่าโชคดีที่แผงวงจรยังไม่เสียหาย ถ้ามีอาการข้างเคียงเล็กๆ น้อยๆ ก็ซ่อมตามร้านหรือศูนย์บริการได้ตามสะดวก เราแนะนำให้คุณมองหาร้านที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงด้วยนะและมีความน่าเชื่อถือไว้ใจได้ด้วย ไม่งั้นคุณอาจจะต้องเสียที่มือถือเนื่องจากการแกะเครื่องที่ไม่เชี่ยวชาญหรืออาจจะได้จ่ายค่าซ่อมหรือค่าทำความสะอาดที่เกิดความจริงไปมากนั้นเอง

ถ้าหากลองทุกวิธีแล้วปัญหายังไม่หายไป ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ รับตรวจเช็คอาการของทุกอาการ ไม่ว่าเครื่องของคุณกำลังเจอปัญหาอะไรก็ตาม เราสามารถให้คำปรึกษากับคุณได้ทุกปัญหา เนื่องจากประสบการณ์ที่เราดำเนินงานด้านนี้มามากกว่า 15 ปี พร้อมทีมช่างที่ได้รับการอบรมทางด้านนี้มาโดยเฉพาะ

ส่งมือถือไปซ่อม เเค่เรียก ลาล่ามูฟ ( Lalamove ) ง่ายนิดเดียว ราคาเริ่มต้นเพียง 35 บาท



3 วิธี ง่ายๆ เช็ค iPhone (ไอโฟน) เมื่อชาตจ์แบตไม่เข้า


มือถือพัง ทำไม..ต้องซ่อมที่ TECH AVENUE (เทคอเวนิว)ถึงดีที่สุด





ปิดความเห็น บน โทรศัพท์ Redmi ตกน้ำ น้ำหกใส่ มีวิธีแก้ไขหรือไม่

โทรศัพท์ OPPO กล้องเสีย กล้องไม่ทำงาน ทำยังไงดี

โทรศัพท์ OPPO กล้องเสีย กล้องไม่ทำงาน

สำหรับใครหลายๆ คน ที่ชอบการเซลฟี่เป็นชีวิตจิตใจ คงจะเป็นเรื่องไม่ดีแน่หากโทรศัพท์ OPPO กล้องเสีย กล้องไม่ทำงาน อาการเสียของกล้องโทรศัพท์ของคุณอาจจะมีอาการดังนี้

อาการของ กล้องโทรศัพท์ OPPO เสีย มีลักษณะดังนี้

  • เปิดกล้องหน้าแต่ภาพดำมืด เปิดไม่ได้
  • เปิดกล้องหน้าแล้ว ถ่ายรูปออกมาไม่ชัด
  • เปิดกล้องหน้า แล้วการสั่งการช้ามาก

ทำอย่างไรเมื่อกล้องโทรศัพท์ของคุณใช้งานไม่ได้

หากคุณกำลังเจอปัญหาเกี่ยวกับกล้องโทรศัพท์ถ่ายรูปไม่ได้ มีการทำงานของกล้องที่ผิดปกติหรือขึ้นเป็นหน้าจอดำ คุณสามารถลองแก้ปัญหาอย่างง่ายๆ ด้วยตัวเองก่อนได้ตามขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: ทำความสะอาดเลนส์และเลเซอร์ของกล้อง

ในการทำความสะอาดเลนส์กล้องและเซนเซอร์ของเลเซอร์ ให้เช็ดบริเวณดังกล่าวเบาๆ ด้วยผ้านุ่มที่สะอาด หากรูปภาพและวิดีโอไม่ชัดหรือกล้องไม่โฟกัส ให้ทำความสะอาดเลนส์กล้อง หากโทรศัพท์มีเซนเซอร์ของเลเซอร์ ให้ทำความสะอาดเซนเซอร์ด้วย

เคล็ดลับ: กล้องอาจแจ้งให้ทราบหากตรวจพบว่าเลนส์สกปรก ดูวิธีปิดคําเตือนเลนส์สกปรก

ขั้นตอนที่ 2: รีสตาร์ทโทรศัพท์

  1. กดปุ่มเปิด/ปิดโทรศัพท์ค้างไว้
  2. แตะปิดเครื่อง
  3. เมื่อปิดโทรศัพท์แล้ว ให้กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้จนโทรศัพท์เปิดขึ้นอีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 3: ล้างแคชของแอปกล้องถ่ายรูป

  1. เปิดแอปการตั้งค่าของโทรศัพท์ การตั้งค่า
  2. แตะแอป จากนั้น ดูแอปทั้งหมด จากนั้น กล้องถ่ายรูป หากไม่เห็น “ดูแอปทั้งหมด” ให้แตะข้อมูลแอป
  3. แตะพื้นที่เก็บข้อมูลและแคช จากนั้น ล้างแคช

ขั้นตอนที่ 4: อัปเดตแอป

  • เปิดแอป Google Play Store Play Store ในโทรศัพท์
  • แตะเมนู เมนู จากนั้น แอปและเกมของฉัน
  • หากต้องอัปเดตแอป ให้แตะอัปเดต

ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบว่าแอปอื่นทำให้เกิดปัญหาหรือไม่

  1. กดปุ่มเปิด/ปิดของโทรศัพท์ค้างไว้
  2. แตะปุ่มเปิด/ปิด เปิด/ปิด ในหน้าจอค้างไว้
  3. โทรศัพท์จะเริ่มต้นในโหมดปลอดภัย คำว่า “โหมดปลอดภัย” จะแสดงที่ด้านล่างของหน้าจอ
  4. เปิดกล้องถ่ายรูปและดูว่าใช้ได้หรือไม่
  • หาก Google กล้องถ่ายรูปทำงานได้ในโหมดปลอดภัย แสดงว่าแอปอื่นอาจเป็นสาเหตุของปัญหา
  • รีสตาร์ทโทรศัพท์เพื่อออกจากโหมดปลอดภัย
  • ถอนการติดตั้งแอปที่ดาวน์โหลดมาล่าสุด
  • เปิดกล้องถ่ายรูปแล้วตรวจสอบว่าแก้ปัญหาได้แล้วหรือไม่ หากยังแก้ไม่ได้ ให้ทำขั้นตอนก่อนหน้าซ้ำ
  • หากแก้ปัญหาได้แล้ว ให้ติดตั้งแอปที่นำออกไปก่อนแอปล่าสุดอีกครั้ง
  • หาก Google กล้องถ่ายรูปไม่ทำงานในโหมดปลอดภัย ให้ดูวิธีอื่นๆ ในการแก้ปัญหาแอป

หากยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับกล้องในโทรศัพท์อยู่ไม่สามารถแก้ไขได้

หากทำตามคำแนะนำตามข้างต้นแล้ว กล้องโทรศัพท์ OPPO เสีย ยังไม่สามารถใช้งานได้ ให้รีบพบช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไปโดยเร็วที่สุดเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาอื่นๆ ที่เป็นไปได้เกี่ยวกับการรีเซตโทรศัพท์ อาจจะเป็นไปได้ที่เปลี่ยนกล้องหน้าตัวใหม่แล้วหาย หรือในบางครั้งเปลี่ยนกล้องใหม่ก็อาจจะไม่ช่วยให้กล้องกลับมาทำงานได้ก็มี ดังนั้นหากคุณมีปัญหาเรื่องการใช้งานกล้องหน้าไม่ได้ หรือ กล้องหน้าเสีย อย่ารอช้ารีบติดต่อเรา เรามีอะไหล่เกือบทุกรุ่นไว้รองรับปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณ

ถ้าหากลองทุกวิธีแล้วปัญหายังไม่หายไป ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ รับตรวจเช็คอาการของทุกอาการ ไม่ว่าเครื่องของคุณกำลังเจอปัญหาอะไรก็ตาม เราสามารถให้คำปรึกษากับคุณได้ทุกปัญหา เนื่องจากประสบการณ์ที่เราดำเนินงานด้านนี้มามากกว่า 15 ปี พร้อมทีมช่างที่ได้รับการอบรมทางด้านนี้มาโดยเฉพาะ

ส่งมือถือไปซ่อม เเค่เรียก ลาล่ามูฟ ( Lalamove ) ง่ายนิดเดียว ราคาเริ่มต้นเพียง 35 บาท



3 วิธี ง่ายๆ เช็ค iPhone (ไอโฟน) เมื่อชาตจ์แบตไม่เข้า


มือถือพัง ทำไม..ต้องซ่อมที่ TECH AVENUE (เทคอเวนิว)ถึงดีที่สุด





ปิดความเห็น บน โทรศัพท์ OPPO กล้องเสีย กล้องไม่ทำงาน ทำยังไงดี

โทรศัพท์ One plus ปุ่มกดไม่ได้ กดไม่ลง แก้ไขยังไงดี

โทรศัพท์ One plus ปุ่มกดไม่ได้ กดไม่ลง

ถึงแม้ว่าปัจจุบันปุ่มบนมือถือจะเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ แต่มือถือส่วนใหญ่ก็ยังคงต้องใช้ปุ่มอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดหรือเปิดหน้าจอ รวมทั้งปุ่ม Volume สำหรับปรับระดับเสียง โทรศัพท์ One plus ปุ่มกดไม่ได้ กดไม่ลง ซึ่งในบางครั้งปุ่มก็อาจมีปัญหากดไม่ติด หรือกดบ่อย ๆ จนปุ่มเสีย จะรีสตาร์ตเครื่องก็กดไม่ได้ น่าจะเป็นปัญหาที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายๆ ท่าน คงจะเคยเจอะเจอมากันบ้างแล้ว กับอาการ เครื่องเอ๋อ เครื่องค้าง ที่สามารถเกิดขึ้นได้ วันนี้เรามีวิธีแก้ปัญหาปุ่มบนมือถือ Android แบบเบื้องต้นมาฝากกัน ถ้าสามารถแก้ปัญหาเองได้ ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปส่งศูนย์ซ่อมเลย

1.เช็กว่าปุ่มกดโทรศัพท์เสียจริง ๆ หรือไม่

ก่อนอื่นเลยคุณต้องเช็คให้แน่ใจเสียก่อนว่าปุ่มนั้นเสียจริง ๆ หรือว่าเป็นปัญหาจากซอฟต์แวร์ ด้วยการรีสตาร์ตเครื่อง หากปุ่ม Power กดไม่ได้

  • ให้โหลดแอปพลิเคชัน Android Accessibility Suite มาใช้
  • โดยให้ติดตั้งแอปพลิเคชันแล้วเข้าไปที่ Settings > Accessibility เพื่อสร้าง Shortcut แทนปุ่ม Power บนหน้าจอ
  • และให้แตะที่ตัวเลือก Power Off ค้างไว้เพื่อให้มือถือเข้าสู่ Safe Mode
  • แล้วทดลองกดปุ่มดูว่าใช้ได้หรือไม่
  • หรือจะใช้แอปพลิเคชัน TestM เพื่อทดสอบปุ่มก็ได้เช่นกัน

ถ้าหากพบว่าปุ่มไม่ได้แต่เสียแต่เกิดปัญหาจากซอฟต์แวร์ ก็ให้ลองลบแอปพลิเคชัน ที่เพิ่งติดตั้งล่าสุดก่อนที่ปุ่มจะมีปัญหาดู โดยเฉพาะแอปพลิเคชัน ที่ไม่น่าไว้วางใจ เพราะนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปุ่มไม่ทำงานก็ได้ หรืออาจจะใช้ทางสุดท้ายคือสั่ง Factory Reset เครื่องเสียเลย

2.ทำความสะอาดปุ่ม

บริเวณร่องข้าง ๆ ปุ่มนั้นถือว่าเป็นจุดที่มีฝุ่นและคราบต่าง ๆ หมักหมมอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลให้ปุ่มกดไม่ค่อยติดได้ และการทำความสะอาดนั้นก็อาจจะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง

  • โดยให้ใช้ที่เป่าลมเป่าตามร่อง
  • หรือใช้ไม้จิ้มฟันแคะฝุ่นออกมาเท่าที่สามารถทำได้
  • จากนั้นให้ลองกดปุ่มดูใหม่ว่าใช้ได้หรือยัง

3.ทำปุ่มเสมือนมาใช้แทน

ถึงแม้ว่าปุ่มจะเสียจริง ๆ แต่ถ้ายังไม่ว่างไปส่งซ่อมหรือยังไม่อยากซ่อม ก็สามารถทำปุ่มเสมือนบนหน้าจอมาใช้แทนได้เช่นกัน

  • ด้วยการติดตั้งแอปพลิเคชัน Android Accessibility Suite ตามที่ได้กล่าวไว้ในข้อ 1
  • ถ้าใช้ Android 9 ขึ้นไปจะมีติดเครื่องอยู่แล้ว
  • จากนั้นให้เข้าไปที่ Settings > Accessibility จะสามารถตั้งค่าให้แสดงปุ่มเสมือนแทนปุ่ม Power, Volume และปุ่มอื่น ๆ บนหน้าจอได้

หากทำมาทั้งหมดแล้ว ยังใช้ไม่ได้เราแนะนำให้ส่งซ่อมเถอะ

ถ้าหากลองทุกวิธีแล้วยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ หรือยังทำให้ปุ่มใช้งานได้ดั่งใจไม่สำเร็จ หนทางสุดท้ายก็คือส่งซ่อมที่ศูนย์บริการหรือร้านที่คุณสามารถไว้ใจได้ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและระยะเวลาการรับประกันของแต่ละแบรนด์ ถ้าจะเข้าร้านเราแนะนำให้คุณเลือกร้านที่มีประสบการณ์ทำงานทางด้านมือถือเนื่องจากจะมีทีมงานและทีมช่างที่เป็นผู้เชี่ยวชาญไว้คอยดูแลคุณได้อย่างตรงจุดนั้นเอง

ถ้าหากลองทุกวิธีแล้วปัญหายังไม่หายไป ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ รับตรวจเช็คอาการของทุกอาการ ไม่ว่าเครื่องของคุณกำลังเจอปัญหาอะไรก็ตาม เราสามารถให้คำปรึกษากับคุณได้ทุกปัญหา เนื่องจากประสบการณ์ที่เราดำเนินงานด้านนี้มามากกว่า 15 ปี พร้อมทีมช่างที่ได้รับการอบรมทางด้านนี้มาโดยเฉพาะ

เรียก แฟลช (Flash)  ส่งซ่อมมือถือ ง่ายนิดเดียว ราคาเริ่มต้นเพียง 35 บาท



3 วิธี ง่ายๆ เช็ค iPhone (ไอโฟน) เมื่อชาตจ์แบตไม่เข้า


มือถือพัง ทำไม..ต้องซ่อมที่ TECH AVENUE (เทคอเวนิว)ถึงดีที่สุด





เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

ปิดความเห็น บน โทรศัพท์ One plus ปุ่มกดไม่ได้ กดไม่ลง แก้ไขยังไงดี

โทรศัพท์ Huawei แบตเสื่อม แบตบวม แก้ไขยังไงดี

โทรศัพท์ Huawei แบตเสื่อม แบตบวม

โทรศัพท์ Huawei มีปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม หรือ แบตเตอรี่บวม เชื่อว่าเป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะเคยเจอกันมาบ้าง และคุณสงสัยกันไหมว่ามันเกิดจากอะไร แล้วต้องแก้ไขอย่างไร วันนี้เรามาหาคำตอบกัน แบตเตอรี่มือถือนั้น ถือว่าเป็นชิ้นส่วนสำคัญสำหรับโทรศัพท์มือถือ ส่วนมากจะมี 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ แบตเตอรี่ลิเธียมโพลีเมอร์ และ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งจำเป็นต้องมีการดูแลรักษาอย่างดี เพราะมีอายุการใช้งานจำกัด เมื่อไรก็ตามที่เริ่มเสื่อมสภาพ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายขึ้นได้ เช่น เครื่องพัง หน้าจอ ปุ่มกดเสียหาย ไปจนถึงตัวเครื่องไหม้หรือระเบิด เป็นต้น ฟังดูแล้วไม่น่าใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่างที่หลายคนคิดเลยใช่ไหมล่ะ ว่าแต่สาเหตุของการบวมเกิดจากอะไร และมีวิธีสังเกตอย่างไรได้บ้างนะ ? ไปดูกันเลย

โทรศัพท์ Huawei แบตเตอรี่มือถือบวม เกิดจากอะไรได้บ้าง

1.  แบตเตอรี่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน

สาเหตุนี้พบได้ในโทรศัพท์มือถือที่มีอายุตั้งแต่ 2-3 ปีขึ้นไป จะเริ่มมีอาการเสื่อมสภาพตามการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ประสิทธิภาพการเก็บประจุไฟของแบตเตอรี่ลดลง สังเกตได้จากแบตเตอรี่เริ่มหมดเร็วขึ้นจนผิดสังเกต นั่นคืออาการของแบตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อมแล้วนั่นเอง

2.  การเล่นมือถือไปด้วย ชาร์จไปด้วย

สำหรับนิสัยการชาร์จมือถือและใช้งานไปพร้อมกัน หากทำนาน ๆ ครั้งก็ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ถ้าทำบ่อย ๆ อาการแบตเตอรี่เสื่อมก็จะถามหา อาจส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น และนำไปสู่อาการแบตเตอรี่บวมได้ง่าย ๆได้เช่นกัน

3.  อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่หรือปลั๊กไฟไม่ได้มาตรฐาน

หลายครั้งที่ปัญหาแบตเตอรี่บวมหรือเสื่อมไม่ได้มาจากตัวแบตเตอรี่ แต่อาจมาจากการใช้ที่ชาร์จแบตเตอรี่หรือเต้าเสียบที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่มีสวิตช์เปิด-ปิดไฟ หรือการถอดที่ชาร์จแบตเตอรี่ขณะชาร์จไฟ ก็มีสิทธิ์ทำให้เกิดอาการไฟกระชาก และส่งผลต่อแบตเตอรี่เช่นกันนะ

4.  การใช้แบตเตอรี่ปลอม

หากใครเคยนำมือถือไปเปลี่ยนแบตฯ ใหม่ และหันไปใช้แบตเตอรี่ปลอมหรือแบตเตอรี่ราคาถูกแทน นี่ก็เป็นอีกสาเหตุแห่งความเสี่ยงเช่นกัน ทางที่ดีคุณควรเลือกแบตเตอรี่ยี่ห้อที่เชื่อถือได้ และมีมาตรฐาน มอก. ในการจัดจำหน่ายจะดีมากกว่าเพื่อความปลอดภัยกับตัวคุณเองด้วยนะ

แบตเตอรี่มือถือบวม อันตรายอย่างไร

สำหรับอันตรายจากการใช้งานมือถือแบตเตอรี่เสื่อมหรือบวม เริ่มจากความเสียหายในส่วนอื่น ๆ ของเครื่อง เช่น หน้าจอ ฝาหลังโก่งและงอ ปุ่มกดใช้งานไม่ได้ เพราะแบตเตอรี่บวมจนดันส่วนประกอบภายใน ถ้าปล่อยไว้และยังใช้งานต่อไปเรื่อย ๆ  มีโอกาสสูงที่ตัวเครื่องจะไหม้หรือระเบิด หากไม่อยากเจอเหตุการณ์นี้กับตัว ควรหยุดใช้มือถือเครื่องนั้นโดยด่วนเลยนะ

แบตเตอรี่มือถือบวม หรือเสื่อมสภาพควรทำอย่างไรดี

เมื่อคุณทราบว่ามือถือของคุณแบตเตอรี่บวมแน่นอน ทางแก้ปัญหาโทรศัพท์ Huawei แบตเตอรี่บวม คือ ปิดเครื่อง ห้ามชาร์จไฟ และนำเครื่องไปเปลี่ยนแบตเตอรี่มือถือเป็นของใหม่ ให้เลือกใช้แบตเตอรี่จากศูนย์บริการของแบรนด์นั้น ๆ หรือเลือกแบตเตอรี่ที่มีมาตรฐาน ยี่ห้อไว้ใจได้ ผ่านการรับรองจาก มอก. เราแนะนำให้คุณหาร้านที่มีการรับประกันการซ่อม ด้วยจะดีมากเลยนะ เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย โดยหากพบว่ามือถือซ่อมแล้วยังมีปัญหาและอยู่ภายในระยะเวลาการรับประกันก็สามารถนำมาเคลมได้นั้นเอง

ถ้าหากลองทุกวิธีแล้วปัญหายังไม่หายไป ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ รับตรวจเช็คอาการของทุกอาการ ไม่ว่าเครื่องของคุณกำลังเจอปัญหาอะไรก็ตาม เราสามารถให้คำปรึกษากับคุณได้ทุกปัญหา เนื่องจากประสบการณ์ที่เราดำเนินงานด้านนี้มามากกว่า 15 ปี พร้อมทีมช่างที่ได้รับการอบรมทางด้านนี้มาโดยเฉพาะ

ซ่อมมือถือ แถวไอทีมอลล์ ฟอร์จูน ร้านไหนดี เชื่อถือได้ ราคาไม่แพง



3 วิธี ง่ายๆ เช็ค iPhone (ไอโฟน) เมื่อชาตจ์แบตไม่เข้า


มือถือพัง ทำไม..ต้องซ่อมที่ TECH AVENUE (เทคอเวนิว)ถึงดีที่สุด





ปิดความเห็น บน โทรศัพท์ Huawei แบตเสื่อม แบตบวม แก้ไขยังไงดี

วิธีแก้ไข โทรศัพท์ Samsung จอแตก เบื้องต้น

โทรศัพท์มือถือ Samsung จอแตก ทำอย่างไรดี

โทรศัพท์มือถือ Samsung จอแตก ถือเป็นอีกหนึ่งในเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาสำหรับใครหลายคน ซึ่งหลาย ๆ คนก็เลือกที่จะใช้มันต่อไปทั้ง ๆ แบบนั้น และอีกหลาย ๆ คนก็เอาไปเปลี่ยนจอที่ศูนย์พร้อมเจอค่าซ่อมมหาโหด เพราะการทำจอแตกไม่ได้อยู่ในการรับประกันของผู้ผลิตอย่างแน่นอน เมื่อโทรศัพท์หน้าจอแตก สิ่งที่คุณจะต้องทำอย่างแรกเลยนั้นก็คือ การสำรวจความเสียหายส่วนอื่น ๆ ด้วยนอกจากหน้าจอ จากนั้นให้พิจารณาว่าจอของคุณแตกแบบไหน ซึ่งหน้าจอแตกนั้นจะมีทั้งหมด 3 แบบแล้วแต่ความแรงของการกระแทก โดยทั้ง 3 แบบนั้นจะมีดังนี้

1.  ฟิล์มกระจกแตก

สิ่งแรกที่หลายคนทำเมื่อได้สมาร์ทโฟนมาเลยก็คือ การติดฟิล์มป้องกันรอยที่หน้าจอ ซึ่งฟิล์มที่ได้รับความนิยมมากก็คือ ฟิล์มกระจก เพราะนอกจากจะกันรอยได้แล้ว หากตกไม่แรง ฟิล์มกระจกยังสามารถช่วยป้องกันโทรศัพท์หน้าจอแตกได้อีกด้วย โดยเมื่อฟิล์มกระจกแตก ส่วนมากจะไม่แตกทั้งแผ่นนะ แต่จะร้าวๆ แค่บางส่วนที่กระแทกแรง เพราะด้วยตัวกาวที่ยังยึดไว้อยู่นั้นเอง ซึ่งถ้าแตกลักษณะนี้คุณยังสามารถใช้งาน สัมผัสหน้าจอได้อย่างตามปกตินั้นเอง

วิธีซ่อมเมื่อฟิล์มกระจกแตก

เนื่องจากฟิล์มกระจกซ่อมไม่ได้ แต่มีราคาถูกคุณเลยสามารถเปลี่ยนฟิล์มกระจกได้ทั้งแผ่น เพราะงั้นเปลี่ยนเลย! รับรองเลยว่าสมาร์ทโฟนของคุณจะกลับมาเหมือนใหม่อย่างแน่นอน

2.  กระจกหน้าจอแตก

เนื่องจากสมาร์ทโฟนทุกตัวจะมีชั้นกระจกอยู่อีกหนึ่งชั้นครอบอยู่ที่หน้าจอ ซึ่งกระจกตัวนี้สำคัญมากนะ เพราะจะช่วยในการปกป้องหน้าจอของคุณเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หากกระจกหน้าจอโทรศัพท์ของคุณแตก คุณจะยังสัมผัสหน้าจอได้อยู่ และหน้าจอจะไม่มีเส้นขึ้น สีจะยังไม่ผิดเพี้ยน แต่จะมีแค่รอยแตกเท่านั้น พูดง่าย ๆ คือ ใช้โทรศัพท์ได้ปกติ มีแค่รอยแตกที่หน้าจอเท่านั้นเอง

วิธีซ่อมโทรศัพท์ Samsung กระจกหน้าจอแตก

เมื่อคุณเช็กและมั่นใจแล้วว่าโทรศัพท์ของคุณแค่กระจกหน้าจอแตก ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย เพราะถึงคุณจะโชคร้าย แต่ก็ยังมีความโชคดีอยู่ เพราะราคาซ่อมกระจกหน้าจอแตกนั้นค่อนข้างถูก และใช้เวลาซ่อมไม่นาน เพียงแค่หาร้านซ่อมที่มีเครื่องลอกกระจกก็สามารถซ่อมแซมได้แล้ว แต่คุณก็ต้องเลือกร้านซ่อมโทรศัพท์ Samsung กระจกหน้าจอแตกที่ดีมีความน่าเชื่อถือด้วยนะ เพราะการลอกกระจกหน้าจอนั้นต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการทำมากเลยทีเดียว

3.  จอด้านในแตก

ในบางครั้งโทรศัพท์ของคุณตกแรงๆ เมื่อหยิบมาดูไม่มีรอยแตกทีหน้าจอ คุณก็จะโล่งใจ แต่พอกดเปิดหน้าจอเท่านั้นละ งานเข้ากันเลยทีเดียว สัญญาณร้ายจะมาเยือนคุณทันที เพราะหน้าจอมีจุดดำๆ มีแถบเส้นขึ้นมามากมาย การสัมผัสก็รวนหรืออาจจะสัมผัสไม่ได้เลยก็มี ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้คุณมั่นใจได้เลยว่า โทรศัพท์หน้าจอแตกที่ด้านในอย่างแน่นอนแล้วละ

วิธีซ่อมเมื่อกระจกด้านในแตก

ถ้าโทรศัพท์ของคุณมีอาการหน้าจอแตกแบบนี้ เราขอให้คุณทำใจไว้เลยว่า “จ่ายแพงกว่าอาการอย่างอื่น” อย่างแน่นอน เนื่องจากคุณจะต้องเปลี่ยนทั้งชุดจอ ยิ่งโทรศัพท์สมาร์ทโฟนสมัยนี้ หน้าจอใหญ่ แถมมีเทคโนโลยีมากมาย เผลอๆ ค่าเปลี่ยนชุดจออาจถึง 50-80% ของราคาเครื่องเลย ดังนั้น คุณควรที่จะเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือเนื่องจาก ร้านซ่อมมือถือนั้นมีอยู่มากมาย มีให้เลือกหลายร้าน แต่ทางที่ดีควรเลือกร้านที่เป็นศูนย์ใหญ่ในการรับซ่อมมือถือที่มีช่างผู้เชี่ยวชาญทางนี้ด้านนี้โดยตรงจะดีกว่า ร้านตู้ที่เปิดทั่วไปอย่างมาก

ถ้าหากลองทุกวิธีแล้วปัญหายังไม่หายไป ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ รับตรวจเช็คอาการของทุกอาการ ไม่ว่าเครื่องของคุณกำลังเจอปัญหาอะไรก็ตาม เราสามารถให้คำปรึกษากับคุณได้ทุกปัญหา เนื่องจากประสบการณ์ที่เราดำเนินงานด้านนี้มามากกว่า 15 ปี พร้อมทีมช่างที่ได้รับการอบรมทางด้านนี้มาโดยเฉพาะ

ซ่อมมือถือ แถวไอทีมอลล์ ฟอร์จูน ร้านไหนดี เชื่อถือได้ ราคาไม่แพง



3 วิธี ง่ายๆ เช็ค iPhone (ไอโฟน) เมื่อชาตจ์แบตไม่เข้า


มือถือพัง ทำไม..ต้องซ่อมที่ TECH AVENUE (เทคอเวนิว)ถึงดีที่สุด





เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

ปิดความเห็น บน วิธีแก้ไข โทรศัพท์ Samsung จอแตก เบื้องต้น