ปี 2023 อัพเดท อาการเสีย iPhone ไอโฟน มีอะไรบ้าง

 

อัพเดท อาการเสียยอดนิยม ของ iPhone ไอโฟน ปี 2023 

อาการเสียที่พบบ่อยใน iPhone ประกอบด้วย:

1.หน้าจอเสียหรือแตก

อาจเกิดจากการกระแทกหรือตกของโทรศัพท์ หากหน้าจอแตกเสียหรือไม่ทำงานอย่างถูกต้อง จะต้องเปลี่ยนหน้าจอใหม่

2.แบตเตอรี่ไม่ดี

อาจเกิดจากการใช้งานอย่างต่อเนื่องหรือเวลาใช้งานนาน แบตเตอรี่อาจต้องเปลี่ยนใหม่

3.ปัญหาเครือข่าย

อาจเกิดปัญหาเชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือไม่ได้ หรือสัญญาณ wifi ไม่เสถียร สาเหตุอาจเกิดจากปัญหาของโทรศัพท์หรือสภาพแวดล้อม

4.ปัญหากับการชาร์จ

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับสายชาร์จ หรือพอร์ตชาร์จบนโทรศัพท์ หากไม่สามารถชาร์จได้อย่างถูกต้อง อาจต้องเปลี่ยนอะไหล่ใหม่

5.ปัญหาด้านซอฟต์แวร์

อาจเกิดจากการใช้งานอย่างไม่ถูกต้องหรือเครื่องมืออื่นที่มีผลต่อระบบของ iPhone ให้เกิดปัญหา เช่น การติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่เหมาะสมหรือไวรัสที่เข้ามายังโทรศัพท์

6.ปัญหาเกี่ยวกับกล้องถ่ายรูป

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับเลนส์หรือเซ็นเซอร์กล้องถ่ายรูป ทำให้ภาพไม่ชัดเจน หรือไม่สามารถถ่ายภาพได้เลย อาจต้องเปลี่ยนอะไหล่ใหม่หรือซ่อมแซม

7.ปัญหาเกี่ยวกับระบบสัมผัส

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับหน้าจอสัมผัสหรือปุ่มโฮมไม่ทำงานอย่างถูกต้อง สาเหตุอาจเกิดจากการใช้งานอย่างไม่ถูกต้องหรือการสัมผัสอุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม

8.ปัญหาเกี่ยวกับเสียง

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับสตรีมเสียงหรือไม่มีเสียงเลย อาจเกิดจากปัญหาของลำโพงหรือเสียงบลูทูธ อาจต้องเปลี่ยนอะไหล่หรือซ่อมแซม

9.ปัญหาเกี่ยวกับการใช้งาน Touch ID หรือ Face ID

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้าไม่ทำงานอย่างถูกต้อง สาเหตุอาจเกิดจากฝุ่นละอองหรือความชื้นในอากาศ หากไม่สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง อาจต้องนำเข้าบริการหรือเปลี่ยนอะไหล่

10.ปัญหาเกี่ยวกับเก็บข้อมูล

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลหรือการสำรองข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ สาเหตุอาจเกิดจากความจำเต็มหรืออุปกรณ์เสียหรือไม่ถูกต้อง

11.ปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น เช่น ไม่สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ไร้สายได้ สาเหตุอาจเกิดจากการตั้งค่าไม่ถูกต้องหรือโปรแกรมไม่สมบูรณ์

12.ปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานแอปพลิเคชัน

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานแอปพลิเคชันที่ติดตั้งบน iPhone ไม่ได้อย่างถูกต้อง สาเหตุอาจเกิดจากการใช้งานอย่างไม่ถูกต้องหรือโปรแกรมไม่สมบูรณ์

13.ปัญหาเกี่ยวกับการอัปเดตซอฟต์แวร์

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการอัปเดตซอฟต์แวร์ไม่สมบูรณ์ สาเหตุอาจเกิดจากการตั้งค่าไม่ถูกต้องหรือเครื่องมืออื่นที่มีผลต่อระบบของ iPhone ให้เกิดปัญหา

14.ปัญหาเกี่ยวกับการแสดงผล

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการแสดงผลหรือความคมชัดของภาพ สาเหตุอาจเกิดจากเซ็นเซอร์หรือเลนส์ที่มีปัญหา

15.ปัญหาเกี่ยวกับการรีสตาร์ท

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการรีสตาร์ทที่ไม่สมบูรณ์หรือเครื่องไม่เปิดตัวอย่างถูกต้อง สาเหตุอาจเกิดจากการใช้งานอย่างต่อเนื่องหรือเครื่องมืออื่นที่มีผลต่อ

16.ปัญหาเกี่ยวกับการรับสัญญาณ GPS

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการรับสัญญาณ GPS ทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการสัญญาณ GPS ได้อย่างถูกต้อง

17.ปัญหาเกี่ยวกับการเข้าถึง Wi-Fi

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการเข้าถึง Wi-Fi หรือการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ไม่ได้ สาเหตุอาจเกิดจากการตั้งค่าไม่ถูกต้องหรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม

18.ปัญหาเกี่ยวกับการใช้งาน Siri

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการใช้งาน Siri ไม่ได้อย่างถูกต้อง สาเหตุอาจเกิดจากการตั้งค่าไม่ถูกต้องหรือเครื่องมืออื่นที่มีผลต่อ Siri

19.ปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Bluetooth

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Bluetooth ไม่ได้ สาเหตุอาจเกิดจากการตั้งค่าไม่ถูกต้องหรือเครื่องมืออื่นที่มีผลต่อการเชื่อมต่อ Bluetooth

20.ปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสาร

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสารผ่านโทรศัพท์ไม่ได้ สาเหตุอาจเกิดจากปัญหาเครือข่ายหรือการตั้งค่าไม่ถูกต้อง

การแก้ไขปัญหาของ iPhone สามารถทำได้โดยการนำเข้าบริการหรือเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ โดยควรเลือกใช้บริการจากศูนย์ซ่อม iPhone ที่ได้รับการรับรองเพื่อป้องกันการเสีย

หากเจอปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ ไอโฟนของคุณ โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต การซ่อมที่ดีและปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้คือการนำเครื่องไปซ่อมที่ร้านมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ ดังนั้น ในบทความนี้เราจะแนะนำวิธีการเลือกและตรวจสอบร้านซ่อมมืออาชีพที่เหมาะสมสำหรับการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

  1. ค้นหาข้อมูลและรีวิว: หากคุณมีปัญหากับอุปกรณ์ของคุณ คุณควรเริ่มต้นด้วยการค้นหาข้อมูลและรีวิวเกี่ยวกับร้านซ่อมออนไลน์ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเหล่านี้ได้จากเว็บไซต์ของร้านซ่อม หรือบนเว็บไซต์รีวิวออนไลน์
  2. ตรวจสอบประสบการณ์: คุณควรตรวจสอบประสบการณ์ของร้านซ่อมที่คุณสนใจ การดูที่ระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจของร้านซ่อมและประสบการณ์ที่มีจะช่วยให้คุณมั่นใจในการเลือกใช้บริการของร้านนั้น
  3. ตรวจสอบการรับประกัน: คุณควรตรวจสอบว่าร้านซ่อมมีการรับประกันและมีการสนับสนุนหลังการขายหรือไม่ ร้านซ่อมที่มีการรับประกันการซ่อมและการสนับสนุนหลังการขายจะช่วยให้คุณมั่นใจในการใช้บริการของร้าน
  4. ตรวจสอบความเชี่ยวชาญ: คุณควรตรวจสอบความเชี่ยวชาญของร้านซ่อมก่อนเลือกใช้บริการ ร้านซ่อมที่มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมอุปกรณ์ของคุณจะช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพของการซ่อม
  5. ตรวจสอบการให้บริการด้วยการเข้าไปติดต่อร้านซ่อม: คุณควรลองติดต่อร้านซ่อมและถามเรื่องการให้บริการ ร้านซ่อมที่ให้การให้บริการที่ดีและมีการตอบกลับอย่างรวดเร็วจะช่วยให้คุณมั่นใจในการเลือกใช้บริการของร้านนั้น
  6. ตรวจสอบความรวดเร็วในการซ่อม: คุณควรสอบถามร้านซ่อมเกี่ยวกับเวลาในการซ่อมอุปกรณ์ของคุณ ร้านซ่อมที่สามารถซ่อมอุปกรณ์ของคุณในเวลาสั้นๆ จะช่วยให้คุณมั่นใจในการซ่อมอุปกรณ์ของคุณ
  7. ตรวจสอบค่าใช้จ่าย: คุณควรสอบถามราคาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมอุปกรณ์ของคุณก่อนเลือกใช้บริการ คุณควรเลือกร้านซ่อมที่มีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมและไม่สูงเกินไป
  8. ตรวจสอบระยะเวลาการรับซ่อม: คุณควรสอบถามระยะเวลาในการรับซ่อมอุปกรณ์ของคุณกับร้านซ่อม ร้านซ่อมที่สามารถรับซ่อมอุปกรณ์ของคุณในระยะเวลาสั้นๆ จะช่วยให้คุณไม่ต้องรอนานเพื่อการซ่อม
  1. ตรวจสอบความปลอดภัย: คุณควรตรวจสอบว่าร้านซ่อมมีมาตรการความปลอดภัยที่เพียงพอหรือไม่ เช่น การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณและการป้องกันการแฮกเข้าสู่ระบบ
  2. ตรวจสอบการติดต่อกับลูกค้า: คุณควรสอบถามว่าร้านซ่อมมีการติดต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางใดบ้าง เช่น โทรศัพท์หรืออีเมล ร้านซ่อมที่มีการติดต่อกับลูกค้าอย่างมืออาชีพจะช่วยให้คุณมั่นใจในการเลือกใช้บริการของร้านนั้น
  3. ตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์และเครื่องมือ: คุณควรตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์และเครื่องมือที่ร้านซ่อมใช้ในการซ่อมอุปกรณ์ของคุณ ร้านซ่อมที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยและครบครันจะช่วยให้การซ่อมอุปกรณ์ของคุณเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การเลือกร้านซ่อมมืออาชีพที่เหมาะสมสำหรับการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ด้วยการรับซ่อมจากร้านที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์การซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาก่อน จะช่วยให้การซ่อมอุปกรณ์ของคุณเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพสูง อย่างไรก็ตาม คุณควรตรวจสอบและเปรียบเทียบร้านซ่อมต่างๆก่อนที่จะเลือกใช้บริการ เพื่อให้ได้รับการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยที่สุดสำหรับอุปกรณ์ของคุณ

ปิดความเห็น บน ปี 2023 อัพเดท อาการเสีย iPhone ไอโฟน มีอะไรบ้าง

ปัญหากล้อง iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max สั่นหนักมาก เพราะอะไร?

หลังจากทำการเปิดตัวไปได้ไม่นาน ก็พบรายงานปัญหาของผู้ใช้ iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max ที่พบกล้อง iPhone 14 ภาพสั่น และรวมไปถึงมีเสียงรบกวนออกมาตรงโมดูลกล้องเมื่อเปิดถ่าย ซึ่งเป็นทุกครั้งเมื่อเปิดใช้งานผ่านแอปโซเชียลต่างๆ เช่น

  • TikTok
  • Instagram
  • Snapchat
  • อื่นๆ

แม้เทคโนโลยีกล้องใหม่ของ iPhone 14 Pro จะน่าตื่นเต้นไม่น้อยสำหรับผู้ใช้ แต่สำหรับเหล่า Third-party แอปทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Instagram, Snapchat และอื่น ๆ ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่นัก เพราะมีผู้ใช้ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max บางกลุ่ม ไม่สามารถถ่ายภาพได้ เพราะแอป Camera มีอาการกล้องสั่นเอง รวมถึงมีเสียงรบกวนออกมาตรงโมดูลกล้องเมื่อเปิดถ่ายด้วย โดยหากเปิดฟีเจอร์ถ่ายภาพในแอป Instagram, TikTok ภาพพรีวิวในกล้องก็จะสั่นหนัก เมื่อพลิกดูที่เลนส์กล้องหลังก็พบว่าตัวเลนส์ก็สั่นหนักมากด้วย

ปัญหาระบบซอฟต์แวร์ iPhone 14

อาจเป็นอีกปัญหาที่ระบบซอฟต์แวร์บางประเภทผิดพลาดแน่นอน เพราะแอป Third-party เหล่านี้คงไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีกล้องใหม่ของ iPhone 14 ซีรีส์ ซึ่งในตอนนี้ปัญหากล้องสั่นของไอโฟนก็เริ่มมีให้เห็นเคสต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นแล้วในโซเชียล และคงต้องรออัปเดตซอฟต์แวร์ต่อไปของแอปเปิลมาแก้ปัญหานี้

ปัญหา กล้อง iPhone 14 เกิดขึ้นจากอะไร

สำหรับปัญหานั้นยังไม่แน่ไม่นอนว่าเกิดจากอะไร ผู้ใช้บางรายคาดว่าอาจมาจากการทำงานที่ไม่เข้ากันของ “ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซนเซอร์ รุ่นที่ 2” ของ iPhone 14 Pro Max กับแอปกล้องต่าง ๆ จึงทำให้ภาพและเลนส์กล้องสั่นนั่นเอง

แอปเปิลออกมายอมรับปัญหา iPhone 14 และหาทางแก้ไขแล้ว

โดยล่าสุดทางแอปเปิลได้ออกมายอมรับกับปัญหานี้แล้ว โดยบอกว่าปัญหาดังกล่าวไม่ได้มาจากฮาร์ดแวร์ จึงไม่จำเป็นต้องนำโทรศัพท์เข้ารับการซ่อมแต่อย่างใด และจะออกซอฟต์แวร์แก้ไขปัญหานี้ให้เร็วมากที่สุดในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าก็คือ iOS 16.0.2 โดยทางแอปเปิลไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมของปัญหาที่เกิดขึ้น แต่จุดแตกต่างที่สำคัญของกล้องหลัง iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max จากรุ่นก่อนหน้าคือชิปกันภาพสั่นรุ่นใหม่ จึงเป็นไปได้ว่าส่วนนี้มีการทำงานที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเปิดผ่านแอปอื่นๆ นั้นเอง

หากคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับมือมือถือสมาร์ทโฟน Apple iPhone

ที่ร้าน Tech Avenue เรารับดูแลและแก้ไขทุกปัญหาที่เกี่ยวกับ Apple iPhone ทุกรุ่นและทางร้านมีการการันตีความน่าเชื่อถือ ด้วยประสบการณ์ของร้านที่เปิดมายาวนานมากกว่า 15 ปี มีหน้าร้านจริงเปิดให้บริการ ที่ห้างชื่อดัง  ดังนั้นลูกค้าที่สะดวก สามารถ   walk in เข้าไปที่ร้านได้เลย ร้านของเรามีรีวิวของลูกค้าทั้งเก่าและใหม่เป็นจำนวนมาก ทั้งบน Web page และ Fan page บน Facebook รับรองเลยว่าคุณจะได้รับแต่ความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน ให้ทุกปัญหาของ iPhone ของคุณ จบลงที่เราร้าน Tech Avenue ยินดีให้บริการคุณจากใจ


Apple Watch (แอปเปิ้ลวอช) series 5 จอแตก เปลี่ยนร้านไหนดี ไม่ต้องรอ




เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

ปิดความเห็น บน ปัญหากล้อง iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max สั่นหนักมาก เพราะอะไร?

รีวิว iPhone 14 Plus ถูกใจสายจอใหญ่ แบตใช้ได้ยาวจุใจ

iPhone 14 Plus จึงนับว่าเข้ามาตอบโจทย์ในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่ต้องการใช้งาน iPhone ที่ได้จอใหญ่ 6.7 นิ้ว เท่ากับรุ่น Pro Max แต่ในขณะเดียวกันตัวเครื่องยังเบากว่า 14 Pro ทำให้เวลาถือใช้งานนั้นไม่ได้รู้สึกว่าหนักจนเกินไป แลกกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นด้วย

ข้อดี iPhone 14 Plus

  • หน้าจอ OLED 7 นิ้ว โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเป็นรุ่น Pro Max
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวๆ ตลอดวัน
  • การเชื่อมต่อรองรับทั้ง 5G, WiFi 6 และบลูทูธ 5.3
  • กล้องหน้า TrueDepth พร้อมออโต้โฟกัส

ข้อสังเกตของ iPhone 14 

  • ถ้าเป็นรุ่น iPhone 14 จะปรับปรุงจาก iPhone 13 ไม่มากนัก
  • หน้าจอยังไม่เป็น 120 Hz
  • ระบบชาร์จเร็วยังอยู่ที่ 20W เช่นเดิม

iPhone 14 Plus จะมากับหน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2278 x 1284 พิกเซล ให้ความละเอียดเม็ดสีที่ 458 ppi ความสว่างหน้าจอ 800 nits และเร่งขึ้นไปได้ถึง 1200 nits ในโหมด HDR เทียบเท่ากับจอของ iPhone 12 Pro Max

FaceID + TrueDepth Camera ขนาดเท่ากับ iPhone 13 Pro Max แต่ได้ออโต้โฟกัสเพิ่ม

กล้องหน้าแบบ TrueDepth ที่ให้มาปรับปรุงขึ้นมาให้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม เพิ่มเติมด้วยออโต้โฟกัส ทำให้สามารถถ่ายในระยะใกล้ได้มากขึ้น รวมถึงการถ่ายวิดีโอในโหมด Cinematic จากกล้องหน้า ใครที่ชอบถ่ายเซลฟี่น่าจะถูกใจไม่น้อย รอบตัวเครื่องยังมากับปุ่มเปิด-ปิดเสียง และปุ่มปรับระดับเสียงทางซ้าย รวมถึงถาดใส่นาโนซิมการ์ด ส่วนทางขวาเป็นปุ่มเปิด-ปิด หน้าจอ และเรียกใช้งาน Siri โดยมีพอร์ต Lightning ไว้เสียบชาร์จเช่นเดิม ที่สามารถชาร์จได้ 50% ใน 35 นาที จากอะแดปเตอร์ 20W

ระยะเวลาการใช้งานของมือถือจริง ๆ ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือความจุแบตเตอรี่และประสิทธิภาพของตัวชิปประมวลผลในเครื่อง ซึ่งรุ่น iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ก็มีการใช้ชิปตัวใหม่ A16 Bionic ที่สร้างบนสถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร ทำให้มีประสิทธิภาพในการประมวลผลดีขึ้น กินแบตน้อยลงกว่าเดิม ส่วนรุ่น iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ก็ยังคงใช้ชิป A15 Bionic ขนาด 5 นาโนเมตรอยู่ ทำให้ยังไม่มีประสิทธิภาพดีเท่ารุ่น Pro แต่ก็ยังเป็นชิปที่ใช้ได้ดีอยู่นั่นเอง

ดังนั้นก็ไม่ต้องห่วงว่าขนาดแบตที่เล็กลงในรุ่น iPhone 14 Pro Max จะทำให้ใช้งานต่อการชาร์จได้น้อยลง เพราะว่าตัวชิปใหม่นี้น่าจะประหยัดพลังงานมากขึ้นแน่นอน

หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับแบต iPhone

ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ เราคือคำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุดสำหรับคุณอย่างแน่นอน เนื่องจากร้านของเรา มีอะไหล่เครื่อง พร้อมบริการ ดังนั้น ลูกค้าที่นำเครื่องมาซ่อม จึงสามารถที่จะรอรับเครื่องกลับได้เลย ไม่ต้องเสียเวลารอ เอาเครื่องไว้ที่ร้าน มีรับประกันทุกงานซ่อม ทุกอาการเสียซ่อมได้จริง การันตีความน่าเชื่อถือ ด้วยประสบการณ์ของร้านที่เปิดมายาวนานมากกว่า 15 ปี มีหน้าร้านจริงเปิดให้บริการ ที่ห้างชื่อดัง  ดังนั้นลูกค้าที่สะดวก สามารถ   walk in เข้าไปที่ร้านได้เลย


จอทัชสกรีนมีปัญหา ซ่อมมือถือร้านไหนดี ส่งซ่อมสะดวก





ปิดความเห็น บน รีวิว iPhone 14 Plus ถูกใจสายจอใหญ่ แบตใช้ได้ยาวจุใจ

โทรศัพท์ iPhone เสียงไม่ดัง เสียงไม่ออก ทำอย่างไรดี?

โทรศัพท์ iPhone เสียงไม่ดัง เสียงไม่ออก

ปัญหาเรื่องของ โทรศัพท์ iPhone เสียงไม่ดัง เสียงหายนั้น กลายเป็นเรื่องสามัญที่หลายคนอาจเคยเจอ เพราะโอกาสที่ใช้งานอยู่ดีๆ เสียงหายไปก็มีหรือบางที่เกิดจากอุบัติเหตุ ตกหล่น เปียกน้ำหรือไฟฟ้าลัดวงจรและอื่นๆ อีกหลายกรณีที่เป็นไปได้ ปัญหานั้นอาจเกิดจากระบบภายในเอง อย่างเช่น วงจรหรือชุดลำโพง รวมไปถึงเกิดจากสิ่งอุดตัน ช่องทางเสียงที่ออกมา ล้วนแต่ทำให้เกิดอาการไม่มีเสียงหรือเสียงหายได้เหมือนกัน เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว ก็ต้องหาทางออก เพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติ แต่จะทำอย่างไรได้บ้าง ก็ต้องตรวจเช็คไปในทีละจุด ไปดูกันเลยว่าเราจะทำอย่างไรกันได้บ้าง

ตรวจเรื่องการตั้งค่าเสียงบน โทรศัพท์ของคุณ

เป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่เริ่มต้นในการเช็คความผิดปกติของโทรศัพท์ที่ไม่มีเสียง เสียงหาย โดยกรณีที่ไม่มีเสียงเลย ให้ลองเข้าไปดูสไลด์บาร์ใน Control Center ว่ามีแถบเลื่อนอยู่หรือไม่ ลองเลื่อนให้ไปที่แถบสไลด์ ว่าปรับได้ตามปกติหรือไม่ รวมถึงกดปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงจากด้านข้างของมือถือ เพื่อดูว่าระดับเสียงถูกลดลงไปจนไม่มีเสียงหรือเสียงเบาหรือไม่ และตรวจเช็คการทำงานของปุ่มว่าทำงานได้ตามปกติ แต่ถ้ากดปุ่มแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น นั่นก็หมายถึงเกิดความเสียหายที่ปุ่มควบคุมและหาทางแก้ไขต่อไป

ลองตรวจดูว่ามีการเชื่อมต่ออุปกรณ์อยู่หรือไม่

ในบางครั้งคุณอาจจะเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นอยู่อย่างเช่น การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บลูทูธ ไม่ว่าจะเป็น ลำโพงหรือหูฟังบลูทูธก็ตาม เพราะบางครั้งเมื่อเชื่อมต่อไปแล้ว ไม่ได้มีการ Disconnect ก็จะไม่มีเสียงเกิดขึ้นที่มือถือ แต่จะไปดังที่ปลายทางแทน ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายๆ คนมักจะลืมไป เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เราใช้กันบ่อยยิ่งขึ้นในปัจจุบัน บางคนใช้หูฟังอยู่บนรถ แต่ทิ้งเอาไว้ในรถหรือบางทีเปิดลำโพงบลูทูธอยู่ในห้องนอน แล้วออกมารับสายนอกบ้าน การที่ยังเชื่อมต่ออยู่ ก็ทำให้เสียงออกที่ลำโพงในห้องเช่นกัน วิธีการแก้ไขก็เพียงเข้าไปที่การเชื่อมต่อ Bluetooth ที่อยู่ใน Setting หรือแตะไปที่ไอคอนที่หน้า Control Center เพื่อปิดการทำงานเท่านั้น

ตรวจเช็คเรื่องความสะอาดลำโพง

คุณควรลองตรวจดูว่ามีความผิดปกติที่ลำโพงหรือไม่ เช่น วัสดุ เศษฝุ่นหรือสิ่งตกค้างต่างๆ เพราะบางครั้งการใส่เคสเอาไว้นานๆ ก็มีเศษผงติดเข้ามาบ้าง บางทีเจอความชื้นหรือละอองน้ำเข้าไป โอกาสที่จะทำให้เกิดการอุดตันตามช่องลำโพงก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน ในจุดนี้ส่วนใหญ่ จะเกิดอาการเสียงไม่ชัดเบาลงหรืออาการหนักคือ เสียงแปลกหรือเสียงแตก หากตรวจพบก็ให้ทำความสะอาดแต่เนิ่นๆ

ด้วยการใช้แปลงทำความสะอาดขนนุ่ม ขนาดเล็กมาปัดฝุ่นออก จากนั้นลองตรวจเช็คเสียงอีกครั้งและหมั่นตรวจดูให้บ่อยขึ้น เพราะหากเกิดสิ่งเหล่านี้มากขึ้น

เกิดจากความเสียหายภายในระบบ

อาการมักจะเกิดหลังจากมีการกระทบกระแทกหรือเกิดจากหล่นน้ำและความชื้นที่ สะสมมากเกินไปภายในมือถือ จนทำให้เกิดการลัดวงจร เช่น หล่นน้ำหรือกระแทกอย่างรุนแรง แล้วมีการเปิดใช้งานในทันทีหรือมีอุปกรณ์และเศษอื่นใด เข้าไปทำอันตรายภายในมือถือ ก็ทำให้เกิดความเสียหาย เสียงไม่ออกหรือเสียงเพี้ยนได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ก็คงต้องส่งซ่อมเท่านั้น เพราะผู้ให้บริการที่จำหน่ายบางรายก็ยกเว้นความเสียหายที่นอกเหนือจากการใช้ งานปกติหรือใช้งานผิดประเภท เปียกน้ำ นั่นก็ทำให้หมดประกันได้ คุณก็ควรเลือกร้านที่มีช่างผู้เชี่ยวชาญทางด้านมือถือโดยตรงด้วยนะ เพื่อให้จบปัญหาที่แท้จริง


ส่งศูนย์บริการหรือร้านซ่อมโทรศัพท์ที่น่าเชื่อถือ

สำหรับช่างซ่อมนั้นก็มีอยู่มากมายดังนั้นคุณควรเลือกร้านหรือทางช่างที่มีความน่าเชื่อถือมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้โดยตรง เช่น ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ เพราะทางร้านมีช่างที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง ผ่านการทำงานมามากกว่า 15 ปี และมีการอบรมให้ทันต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดเวลา คุณจึงมั่นใจได้ว่าเมื่อนำ iPhone เสียงไม่ดัง ของคุณไปที่ร้านนี้ จะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน จริงๆ แล้วให้รีบนำส่งร้านซ่อมที่สามารถซ่อมแซมปัญหานี้ได้และอยู่ใกล้บ้านจะดีที่สุด

ส่งซ่อมมือถือ ง่ายๆผ่าน Grab เริ่มต้นเพียง 35.-


ซ่อมมือถือ แถว มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ร้านไหนดี บริการซ่อมดีที่สุด


มือถือพัง ทำไม..ต้องซ่อมที่ TECH AVENUE (เทคอเวนิว)ถึงดีที่สุด





ปิดความเห็น บน โทรศัพท์ iPhone เสียงไม่ดัง เสียงไม่ออก ทำอย่างไรดี?

โทรศัพท์ iPhone ไม่อ่านซิม ต้องทำอย่างไรดี

โทรศัพท์ iPhone ไม่อ่านซิม ทำอย่างไรดีนะ

วันนี้เราจะขอเล่าปัญหาทั่วไป สำหรับคนที่ใช้มือถือทุกแบบไม่ว่าจะปุ่มกดหรือจอสัมผัสรุ่นใหม่อาจจะมีโอกาสเจอได้บ้าง นั่นก็คือ ปัญหา iPhone ไม่อ่านซิม หรือสัญญาณไม่ขึ้น เป็นอีกหนึ่งในปัญหาของผู้ใช้มือถือในยุคนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของสัญญาณโทรศัพท์ แม้ว่าเราจะเข้าสู่ยุคที่ทันสมัยไปแล้วก็ตาม แต่ยังไงก็ต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า Sim Card เพื่อใช้งานโทรศัพท์และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 3G, 4G LTE อยู่ดี โดยปัญหาที่พบบ่อยก็คือ หน้าจอมือถือขึ้นว่า “ไม่มีบริการ” ทั้งๆ ที่เราก็ใส่ซิมการ์ดไปแล้วการตรวจเช็คจะแยกออกเป็นสองส่วน คือ ไม่เจอตัวซิมหรือไม่อ่านซิม และ อ่านซิมแต่ไม่เจอสัญญาณที่ควรจะเป็น (3G, 4G) ไปดูกันเลย

 1.  ไม่เจอตัวซิมหรือไม่อ่านซิม

  • เช็คว่าใส่ซิมถูกหรือยัง
  • ห้ามใส่ผิดโดยเด็ดขาดเพราะตัวช่องเสียบจะเสียถาวรและซิมอาจจะพังได้
  • ตรวจสอบที่การตั้งค่าในเครื่อง
  • โดยทั่วไปอยู่ประมาณ “การตั้งค่า > การจัดการซิม” ให้ดูว่ามีชื่อผู้ให้บริการขึ้นหรือเปล่า
  • และมีการ “ปิดการใช้งานซิม” หรือเปล่า หลายๆยี่ห้อจะมีปุ่มเอาไว้เปิดปิดซิม ลองกดเปิดดู
  • ถ้ายังไม่ได้ให้แกะซิมออกมาทำความสะอาดที่แผ่นทองแดง จะใช้แอลกอฮอล์หรือยางลบถูก็ได้ แล้วลองใส่กลับเข้าไปใหม่ ถ้าเครื่องอ่านซิมก็เรียบร้อย
  • ถ้ายังไม่ได้อีกให้แกะซิมไปใส่ในเครื่องอื่นเพื่อเปรียบเทียบดู ถ้าใส่เครื่องอื่นแล้วก็ยังไม่อ่านซิมเหมือนเดิม ตัวซิมน่าจะเสีย ให้ติดต่อผู้ให้บริการเพื่อขอเปลี่ยนซิมใหม่ เบอร์เดิม แต่รายชื่อในซิมเก่าจะไม่สามารถคัดลอกมาในซิมใหม่ได้เพราะซิมเก่ามันไม่อ่าน
  • ถ้าใส่เครื่องอื่นแล้วซิมอ่านได้ ใช้งานได้ แสดงว่าช่องเสียบซิมในเครื่องเราเสีย อาจจะต้องส่งเครื่องเคลม(ถ้ามีประกัน) หรือส่งซ่อมตามร้าน หรืออาจจะลองย้ายไปใส่ในช่องอื่น(ถ้าเครื่องรองรับ 2 ซิม)

โทรศัพท์ iPhone ไม่อ่านซิม ต้องทำอย่างไรดี

2.  อ่านซิมแต่ไมเจอสัญญาณที่ควรจะเป็น (3G, 4G)

  • ซิมนั้นยังสามารถใช้งานได้อยู่หรือเปล่า
  • มียอดค้างหรือวันหมดอายุหรือไม่ เพราะเคยเจอบางคน ค้างจ่ายรายเดือนซึ่งก็ไม่แปลกที่จะไม่เจอสัญญาณ ต้องไปเคลียร์หนี้เก่าก่อนนะ
  • ถ้าใช้สองซิมให้เช็คก่อนว่าใช้ซิมค่ายอะไรบ้าง
  • เครื่องรองรับซิมนั้นหรือเปล่า
  • ที่เจอบ่อยๆ เช่น ใช้เครื่อง True, AIS แล้วไปใส่ซิมค่ายอื่น บางทีสัญญาณมันจะไม่ขึ้น
  • หรือ ใส่สองซิมแต่มีบางซิมสัญญาณไม่ขึ้น
  • ในกรณีที่เครื่องรองรับสัญญาณแล้ว แต่ไม่ขึ้นอย่างที่มันควรจะเป็นเช่น H, E แทนที่จะเป็น 4G ก่อนอื่นลองเข้าไปดู
  • การตั้งค่าเครือข่ายมือถือแบบรูปด้านบน อีกทีว่าได้ตั้งเป็น 4G หรือ LTE หรือยัง
  • ถ้าตั้งแล้วให้เข้าไปดูที่การตั้งค่าเครือข่าย ซึ่งจะอยู่ที่ “การตั้งค่า > เพิ่มเติม > เครือข่ายมือถือ”
  • แล้วให้เลือกสัญญาณที่เป็น 4G ตามชื่อค่ายที่ใช้งาน

ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์

หากทำมาทั้งหมดแล้วยังไม่ดีขึ้น เราแนะนำให้คุณนำโทรศัพท์มือถือ iPhone ไม่อ่านซิม ของคุณไปที่ศูนย์ซ่อมโทรศัพท์มือถือ ที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อลองให้เค้าเช็คอาการว่าโทรศัพท์มือถือของเราเป็นอะไรกันแน่ มีสาเหตุมาจากอะไรนั้นเอง ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ เป็นร้านที่ใหญ่และมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก สามารถการันตีได้ว่าเป็นร้านที่เชื่อถือได้ พร้อมมีรีวิวจากลูกค้ามากมาย เราจึงแนะนำร้านนี้ให้กับคุณ




ซ่อมมือถือ แถว ลาดพร้าว ร้านไหนดี


มือถือพัง ทำไม..ต้องซ่อมที่ TECH AVENUE (เทคอเวนิว)ถึงดีที่สุด





เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

ปิดความเห็น บน โทรศัพท์ iPhone ไม่อ่านซิม ต้องทำอย่างไรดี

โทรศัพท์ iPhone แบตเสื่อม แบตบวม เปลี่ยนแบตที่ไหนดี

โทรศัพท์ iPhone แบตเสื่อม แบตบวม เปลี่ยนแบตที่ไหนดี

ปัญหาโทรศัพท์ iPhoneแบตเตอรี่เสื่อม หรือ แบตเตอรี่บวม เชื่อว่าเป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะเคยเจอกันมาบ้าง และคุณสงสัยกันไหมว่ามันเกิดจากอะไร แล้วต้องแก้ไขอย่างไร วันนี้เรามาหาคำตอบกัน แบตเตอรี่มือถือนั้น ถือว่าเป็นชิ้นส่วนสำคัญสำหรับโทรศัพท์มือถือ ส่วนมากจะมี 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ แบตเตอรี่ลิเธียมโพลีเมอร์ และ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งจำเป็นต้องมีการดูแลรักษาอย่างดี เพราะมีอายุการใช้งานจำกัด เมื่อไรก็ตามที่เริ่มเสื่อมสภาพ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายขึ้นได้ เช่น เครื่องพัง หน้าจอ ปุ่มกดเสียหาย ไปจนถึงตัวเครื่องไหม้หรือระเบิด เป็นต้น ฟังดูแล้วไม่น่าใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่างที่หลายคนคิดเลยใช่ไหมล่ะ ว่าแต่สาเหตุของการบวมเกิดจากอะไร และมีวิธีสังเกตอย่างไรได้บ้างนะ ? ไปดูกันเลย

แบตเตอรี่มือถือบวม เกิดจากอะไรได้บ้าง

1.  แบตเตอรี่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน

สาเหตุนี้พบได้ในโทรศัพท์มือถือที่มีอายุตั้งแต่ 2-3 ปีขึ้นไป จะเริ่มมีอาการเสื่อมสภาพตามการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ประสิทธิภาพการเก็บประจุไฟของแบตเตอรี่ลดลง สังเกตได้จากแบตเตอรี่เริ่มหมดเร็วขึ้นจนผิดสังเกต นั่นคืออาการของแบตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อมแล้วนั่นเอง

2.  การเล่นมือถือไปด้วย ชาร์จไปด้วย

สำหรับนิสัยการชาร์จมือถือและใช้งานไปพร้อมกัน หากทำนาน ๆ ครั้งก็ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ถ้าทำบ่อย ๆ อาการแบตเตอรี่เสื่อมก็จะถามหา อาจส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น และนำไปสู่อาการแบตเตอรี่บวมได้ง่าย ๆได้เช่นกัน

3.  อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่หรือปลั๊กไฟไม่ได้มาตรฐาน

หลายครั้งที่ปัญหาแบตเตอรี่บวมหรือเสื่อมไม่ได้มาจากตัวแบตเตอรี่ แต่อาจมาจากการใช้ที่ชาร์จแบตเตอรี่หรือเต้าเสียบที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่มีสวิตช์เปิด-ปิดไฟ หรือการถอดที่ชาร์จแบตเตอรี่ขณะชาร์จไฟ ก็มีสิทธิ์ทำให้เกิดอาการไฟกระชาก และส่งผลต่อแบตเตอรี่เช่นกันนะ

4.  การใช้แบตเตอรี่ปลอม

หากใครเคยนำมือถือไปเปลี่ยนแบตฯ ใหม่ และหันไปใช้แบตเตอรี่ปลอมหรือแบตเตอรี่ราคาถูกแทน นี่ก็เป็นอีกสาเหตุแห่งความเสี่ยงเช่นกัน ทางที่ดีคุณควรเลือกแบตเตอรี่ยี่ห้อที่เชื่อถือได้ และมีมาตรฐาน มอก. ในการจัดจำหน่ายจะดีมากกว่าเพื่อความปลอดภัยกับตัวคุณเองด้วยนะ


แบตเตอรี่มือถือบวม อันตรายอย่างไร

สำหรับอันตรายจากการใช้งานมือถือแบตเตอรี่เสื่อมหรือบวม เริ่มจากความเสียหายในส่วนอื่น ๆ ของเครื่อง เช่น หน้าจอ ฝาหลังโก่งและงอ ปุ่มกดใช้งานไม่ได้ เพราะแบตเตอรี่บวมจนดันส่วนประกอบภายใน ถ้าปล่อยไว้และยังใช้งานต่อไปเรื่อย ๆ  มีโอกาสสูงที่ตัวเครื่องจะไหม้หรือระเบิด หากไม่อยากเจอเหตุการณ์นี้กับตัว ควรหยุดใช้มือถือเครื่องนั้นโดยด่วนเลยนะ

iPhone แบตเตอรี่มือถือบวม หรือเสื่อมสภาพ

เมื่อคุณทราบว่ามือถือของคุณแบตเตอรี่บวมแน่นอน ทางแก้ปัญหา คือ ปิดเครื่อง ห้ามชาร์จไฟ และนำเครื่องไปเปลี่ยนแบตเตอรี่มือถือเป็นของใหม่ ให้เลือกใช้แบตเตอรี่จากศูนย์บริการของแบรนด์นั้น ๆ หรือเลือกแบตเตอรี่ที่มีมาตรฐาน ยี่ห้อไว้ใจได้ ผ่านการรับรองจาก มอก. เราแนะนำให้คุณหาร้านที่มีการรับประกันการซ่อม ด้วยจะดีมากเลยนะ เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย โดยหากพบว่ามือถือซ่อมแล้วยังมีปัญหาและอยู่ภายในระยะเวลาการรับประกันก็สามารถนำมาเคลมได้นั้นเอง

ถ้าสนใจส่ง ร้านซ่อม iPhone ได้ทุกอาการ ทุกยี่ห้อ และทุกรุ่นของ iPhone กับสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่น ๆ ขอแนะนำร้าน Tech Avenue ที่คุณสามารถส่งเครื่องซ่อมได้จากทั่วไทย ไม่ว่าคุณจะอยู่จังหวัดใดก็ตาม เพียงส่งมาที่อาคารฟอร์จูนทาวน์ แล้วติดต่อช่างโดยตรงได้ที่เบอร์ 097-249-6429  เพื่อพูดคุยอาการของเครื่องเบื้องต้นและประเมินราคาเบื้องต้นก่อน ทั้งยังสามารถติดต่อช่างได้ที่ LINE และ Facebook ติดตามรายละเอียดของการติดต่อเพื่อส่งซ่อมได้เลย



ซ่อมมือถือ แถว ลาดพร้าว ร้านไหนดี


มือถือพัง ทำไม..ต้องซ่อมที่ TECH AVENUE (เทคอเวนิว)ถึงดีที่สุด





เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

ปิดความเห็น บน โทรศัพท์ iPhone แบตเสื่อม แบตบวม เปลี่ยนแบตที่ไหนดี

โทรศัพท์ iPhone ตกน้ำ น้ำหกใส่ ต้องทำยังไงดี

โทรศัพท์ iPhone ตกน้ำ น้ำหกใส่ ทำยังไงดี

ไม่ว่ามือถือจะแข็งแรงทนทานขนาดไหน หากเป็นรุ่นที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้กันน้ำ ‘น้ำ’ ก็ถือเป็นจุดอ่อนของมือถือเสมอ ถ้าโทรศัพท์ iPhone ตกน้ำ น้ำหกใส่ ซึ่งจะมีผลกับพอร์ตการใช้งาน ช่องแจ๊คเสียบหูฟัง และลำโพงทันที นอกจากนี้ น้ำจะไหลไปยังแผงวงจรทำให้เกิดพลังงานความร้อนสูงกว่าปกติจนเกิดอาการไหม้อีกด้วย

เรื่องหนึ่งที่ควรรู้ไว้ก็คือ ประเภทของน้ำที่ตกลงไป

ถึงแม้ว่าการทำโทรศัพท์ iPhone ตกส้วมอาจจะดูสกปรกอย่างรุนแรง แต่สิ่งที่แย่จริงๆ คือการให้มือถือที่ไม่ได้กันน้ำไปสัมผัสกับน้ำทะเล เพราะน้ำเค็มมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนมากกว่าน้ำจืดมาก เปอร์เซ็นต์การพ้นขีดอันตรายแก่ชีวิตของมือถือก็จะต่ำลงไปอีก

สิ่งที่ควรจะรีบทำเมื่อโทรศัพท์ iPhone ตกน้ำ

ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุมือถือตกน้ำ ที่ต้องท่องให้ขึ้นใจก่อนจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งสิ่งที่ควรปฏิบัติ ก็เป็นวิธีการโดยทั่วไปที่เข้าใจไม่ยาก แต่สิ่งที่สำคัญก็คือข้อห้ามต่างๆ ที่ควรรู้เอาไว้ เพราะข้อห้ามส่วนใหญ่แล้ว ล้วนเป็นความเข้าใจผิดที่หลายๆ คนยังทำกันอยู่ทั้งสิ้น

ขั้นตอนการปฐมพยาบาลมือถือเบื้องต้น

  1. รีบปิดมือถือ รวมทั้งนำสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่ติดอยู่กับมือถือออกให้หมด
  2. เช็คทุกพื้นผิวให้สะอาดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์และเจลทำความสะอาด
  3. ทำให้มือถือแห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะนั้น
  4. ถอดทุกอย่างออก ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่ถ้าถอดได้ ซิมการ์ด หรือสายหูฟังอุปกรณ์ต่างๆ
  5. ตั้งมือถือไว้ในแนวตั้ง ถ้าถอดแบตเตอรี่ออกไม่ได้

สิ่งที่ห้ามทำ เมื่อโทรศัพท์ iPhone ตกน้ำ

  1. ห้ามอบมือถือด้วยไมโครเวฟเด็ดขาด เพราะมือถือไม่ใช่อาหาร และเสี่ยงต่อไฟไหม้อีกด้วย
  2. ห้ามนำมือถือไปแช่ช่องแข็ง เมื่อน้ำแข็งละลาย ก็กลายเป็นน้ำเข้าไปในมือถืออยู่ดี
  3. ห้ามใช้ไดร์เป่าผม เป่าน้ำให้แห้งเด็ดขาด เนื่องจากความร้อนจากไดร์ จะทำให้แผงวงจรไหม้ได้
  4. ห้ามใช้ไอร้อนจากเครื่องทำความร้อนต่างๆ ทำให้แห้ง เนื่องจากความร้อนไม่ว่าจะมากหรือน้อย ก็มีสิทธิ์ทำให้แผงวงจรไหม้ได้เหมือนกัน
  5. ห้ามนำไปแช่ข้าวสาร แม้จะมีความเชื่อว่าข้าวสารจะช่วยดูดความชื้น แต่ผลการวิจัยก็ออกมาว่า มันก็ไม่ได้เร็วพอที่จะช่วยชีวิตมือถือจากการกัดกร่อนของน้ำอยู่ดีนะ

ส่งศูนย์บริการหรือร้านซ่อมโทรศัพท์ที่น่าเชื่อถือ

เนื่องจากการจะทำให้มือถือแห้งด้วยตัวเอง จริงๆ แล้วนั้น เราไม่สามารถทำได้ดีมากเท่าไหร่ เพราะจุดที่น้ำไปสร้างความเสียหาย อยู่ในส่วนของมือถือที่ปกติแล้วผู้ใช้งานอย่างเราๆ เข้าไปไม่ถึง เราแนะนำให้คุณส่งหามืออาชีพให้เค้าดูแลให้เราจะดีกว่า และดูเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกับมือถือสุดที่รักของเรามากที่สุด เพราะถ้าวงจรของมือถือไหม้ไปเรียบร้อยแล้ว (เปิดไม่ติด) ลองเช็คประกันสินค้าก่อนเลย ถ้ายังไม่หมดและเงื่อนไขประกันครอบคลุมเรื่องความเสียหายจากน้ำก็ถือว่ารอดตัวไป แต่ถ้าไม่มีประกันใดๆ ก็แน่นอนว่า ต้องเสียค่าซ่อม ค่าอะไหล่กันไปตามขั้นตอน แต่ถ้ามือถือยังเปิดติด ก็ถือว่าโชคดีที่แผงวงจรยังไม่เสียหาย ถ้ามีอาการข้างเคียงเล็กๆ น้อยๆ ก็ซ่อมตามร้านหรือศูนย์บริการได้ตามสะดวก เราแนะนำให้คุณมองหาร้านที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงด้วยนะและมีความน่าเชื่อถือไว้ใจได้ด้วย ไม่งั้นคุณอาจจะต้องเสียที่มือถือเนื่องจากการแกะเครื่องที่ไม่เชี่ยวชาญหรืออาจจะได้จ่ายค่าซ่อมหรือค่าทำความสะอาดที่เกิดความจริงไปมากนั้นเอง

สำหรับช่างซ่อมนั้นก็มีอยู่มากมายดังนั้นคุณควรเลือกร้านหรือทางช่างที่มีความน่าเชื่อถือมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้โดยตรง เช่น ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ เพราะทางร้านมีช่างที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง ผ่านการทำงานมามากกว่า 15 ปี และมีการอบรมให้ทันต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดเวลา คุณจึงมั่นใจได้ว่าเมื่อนำ iPhone ของคุณไปที่ร้านนี้ จะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน จริงๆ แล้วให้รีบนำส่งร้านซ่อมที่สามารถซ่อมแซมปัญหานี้ได้และอยู่ใกล้บ้านจะดีที่สุด

ส่งซ่อมมือถือ ง่ายๆผ่าน Grab เริ่มต้นเพียง 35.-


ซ่อมมือถือ แถว มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ร้านไหนดี บริการซ่อมดีที่สุด


มือถือพัง ทำไม..ต้องซ่อมที่ TECH AVENUE (เทคอเวนิว)ถึงดีที่สุด





เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

ปิดความเห็น บน โทรศัพท์ iPhone ตกน้ำ น้ำหกใส่ ต้องทำยังไงดี

iPhone เชื่อมต่อ WIFI หรือเล่นเน็ตไม่ได้ ทำอย่างไรดี

iPhone เชื่อมต่อ WIFI หรือเล่นเน็ตไม่ได้

หากตอนนี้คุณกำลังประสบพบเจอกับปัญหา โทรศัพท์ iPhone เชื่อมหา WIFI ไม่เจอ หรือ มือถือ แท็บเล็ตของคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้ วันนี้เรามีวิธีการง่ายๆ ที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ซึ่งวิธีที่ว่านี้ได้รวบรวมมาจากประสบการณ์ปัญหาที่ทางเราเองมักพบเจอจากการดูแลลูกค้าของเราอยู่บ่อยๆ มาฝากกัน ซึ่งบางครั้งปัญหาเหล่านี้อาจจะเกิดได้มาจากหลายสาเหตุ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 สาเหตุหลักๆ ดังนี้

สาเหตุ iPhone หา WIFI ไม่เจอ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้

  1. เกิดจากระบบซอร์ฟแวร์ (Software) ของเครื่องเกิดบัคหรือค้างหรือไปเผลอตั้งค่าผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ

วิธีแก้ปัญหากรณีดังกล่าวมีหลายข้อดังนี้

  1. ให้คุณตรวจสอบมือถือก่อนว่าได้ไปเผลอเปิด “โหมดเครื่องบิน” ไว้รึเปล่า ซึ่งถ้าเปิดโหมดนี้ไว้ โทรศัพท์ของคุณจะไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้ ซึ่งถ้าเปิดไว้ก็ไปทำการปิดได้เลย อินเทอร์เน็ตก็จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
  2. ให้คุณลองรีสตาร์ทอุปกรณ์ (ปิด-เปิด เครื่องใหม่) ซึ่งบางครั้งอาจฟังดูเป็นวิธีง่ายๆ แต่บางครั้งก็ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดของการเชื่อมต่อได้นะ
  3. เปิดเมนูไปที่ “การตั้งค่า” จากนั้น ไปที่ ระบบไร้สายและเครือข่าย หรือ “การเชื่อมต่อ” จากนั้นไปที่เมนู อินเทอร์เน็ตมือถือ หรือข้อมูลเครือข่ายมือถือ บนอุปกรณ์บางรุ่น คุณอาจต้องเลือก “ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต” ก่อนจึงจะเห็นเมนู เปิดเน็ตมือถือ หากเปิดอยู่แล้ว ให้ลองปิดแล้วเปิดอีกครั้ง
  4. ลองทำการ Hard Reset มือถือ ดู โดยการกดปุ่ม ลดเสียงค้างไว้ + ปุ่ม Power จากนั้นเครื่องจะทำการรีสตาร์ทใหม่อีกครั้ง
  5. กด คืนค่าอุปกรณ์จากโรงงาน แต่เมื่อใช้วิธีนี้โทรศัพท์จะทำการรีเซตการตั้งค่าทุกอย่างที่เราตั้งเองกลับไปสู่การตั้งค่าที่มาจากโรงงาน (เหมือนกับตอนซื้อเครื่องมาใหม่ๆ) กรณีนี้ทางเราแนะนำให้คุณสำรองข้อมูลเครื่องไว้ก่อนด้วยนะ เพราะข้อมูลบางอย่างจะถูกลบไปด้วยนั่นเอง
  6. Role Back กลับไปสู่ OS เวอร์ชันก่อนหน้าจากการอัปเดตซอร์ฟแวร์รุ่นล่าสุดของเรา กรณีนี้เกิดจากการอัปเดตซอร์ฟแวร์ใหม่ แล้วตัวซอร์ฟแวร์นั้นมีปัญหานั่นเอง
  7. เกิดจากตัวปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตเอง เช่น Router

วิธีแก้ปัญหากรณีดังกล่าวมีหลายข้อดังนี้

  1. ให้คุณลองตรวจสอบว่าโทรศัพท์เครื่องอื่นๆ สามารถเชื่อมต่อกับ WIFI ได้หรือไม่ หากมีเพียงเครื่องของคุณที่ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ก็แสดงว่ามีโอกาสสูงที่ปัญหาจะเกิดจากมือถือของคุณเอง แต่หากคนอื่นๆ ก็ไม่สามารถเชื่อมต่อได้แสดงว่า อาจจะเป็นที่ตัว Router ที่เสีย หรือ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้นๆ อาจจะขัดข้องอยู่ก็ได้
  2. ให้คุณลองรีสตาร์ท (ปิด – เปิด) ตัว Router โดยให้ไปกดปิดไว้ซัก 20 วินาที แล้วทำการกดเปิดใหม่ จากนั้นให้คุณลองเชื่อมต่อ WIFI ดูอีกครั้งว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่
  3. ลองตรวจสอบสายเชื่อมต่อที่เข้าสู่ Router ของคุณดูก่อน เช่น สายแลน หรือ สาย Fiber Optic ว่าได้หลวม หลุด หรือชำรุดอยู่หรือไม่
  4. เกิดจากฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์เสียหายหรือชำรุด

กรณีนี้เกิดจากตัวเครื่องโทรศัพท์ของคุณเอง ซึ่งคุณสามารถทดสอบเองได้ง่ายๆ โดยหา WIFI ตัวอื่นๆ แล้วลองเชื่อมต่อดู ซึ่งถ้าหากเชื่อมไม่ได้เหมือนกัน หรือหา WIFI อื่นๆ ไม่เจอเลย แสดงว่าเครื่องของคุณนั้นอาจจะชำรุดหรือเกิดปัญหาภายในเครื่องแล้วนั่นเอง ซึ่งกรณีนี้ทางเราแนะนำให้คุณ นำมือถือเข้าศูนย์บริการ หรือร้านซ่อมที่น่าเชื่อถือตรวจสอบให้จะดีที่สุดเนื่องจากมีหลายร้านให้เลือก การเลือกร้านที่มีคุณภาพและประสบการณ์การทำงานมานานนั้นจะมีความน่าเชื่อถือกว่าร้านที่เปิดใหม่นั้นเอง

ถ้าสนใจส่ง ร้านซ่อม iPhone ได้ทุกอาการ ทุกยี่ห้อ และทุกรุ่นของ iPhone กับสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่น ๆ ขอแนะนำร้านซ่อมมือถือ Tech Avenue ที่คุณสามารถส่งเครื่องซ่อมได้จากทั่วไทย หรือติดต่อช่างโดยตรงได้ที่เบอร์ 097-249-6429  เพื่อพูดคุยอาการของเครื่องเบื้องต้นและประเมินราคาเบื้องต้นก่อน ทั้งยังสามารถติดต่อช่างได้ที่ LINE และ Facebook ติดตามรายละเอียดของการติดต่อเพื่อส่งซ่อมได้เลย

ซ่อมมือถือ แถวโซนดินแดง ร้านไหนดี ราคาไม่แพง บริการดีมาก



ซ่อมมือถือ แถว มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ร้านไหนดี บริการซ่อมดีที่สุด


มือถือพัง ทำไม..ต้องซ่อมที่ TECH AVENUE (เทคอเวนิว)ถึงดีที่สุด





ปิดความเห็น บน iPhone เชื่อมต่อ WIFI หรือเล่นเน็ตไม่ได้ ทำอย่างไรดี

โทรศัพท์ iPhone ชาร์ทไฟไม่เข้า ทำยังไงดี?

โทรศัพท์ iPhone ชาร์ทไฟไม่เข้า แก้ไขยังไง

ปัญหาที่มักจะกวนใจใครหลายๆ คน มาตั้งแต่เนิ่นนาน สำหรับคนที่ใช้งานมือถือทั่วๆไป ที่มักจะต้องเจอนั้นก็คือปัญหาชาร์จแบตช้า หรือปัญหาชาร์จแบตไม่เข้านั้นเอง ปัญหานี้เกิดมาจากหลายสาเหตุอาจจะเนื่องจากการใช้งานมือถือ สำหรับทุกรุ่น และทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็น Android หรือ โทรศัพท์ iPhone ชาร์ทไฟไม่เข้า ก็ต้องเคยเจอกับปัญหาเหล่านี้กันทั้งนั้นวันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิธีแก้ไขเบื้องต้น และสาเหตุหลักๆ ที่มักจะทำให้ชาร์จแบตไม่เข้ามาฝากกัน ไปดูกันเลยว่าเกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง

1.  สายชาร์จเสีย/ สายปลอม

ปัญหาการชาร์จแบตไม่เข้า เนื่องจากสายชาร์จบริเวณส่วนข้อต่อจากหัวและสายมักจะขาดก่อนเสมอ อีกอย่างที่ทำให้ชาร์จไม่ได้ ก็คือสายเชื่อมต่อภายในขาดอันนี้ก็เกิดขึ้นได้บ่อยและมองออกยากมาก รวมไปถึงสายที่เป็นของปลอม ความจริงแล้วแม้แต่สายที่ให้กำลังไฟในการชาร์จ ของแท้กับของปลอมก็ไม่เหมือนกัน สายปลอมนั้นนอกจะทำให้ชาร์จได้ช้า และไม่เข้าได้แล้ว ยังทำให้แบตเตอรี่ของมือถือเสื่อมได้อีกด้วย

วิธีแก้ไขเบื้องต้น

ถ้าหากเกิดปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ก็ลองเปลี่ยนสายชาร์จดูก่อน แต่แนะนำให้เลือกใช้เป็นสายชาร์จที่ได้มาตรฐานหรือใช้ของแท้ เพราะถึงแม้จะมีราคาแพงกว่าแต่ก็มีคุณภาพและมีความปลอดภัยมากกว่า


2.  ช่องเสียบ USB ชื้น หรือ สกปรก

ถึงแม้ว่ามือถือในปัจจุบันจะสามารถกันน้ำได้ดีอยู่ในระดับนึงแล้ว แต่ความชื้นและสิ่งสกปรก ที่จะเข้าไปอยู่ในช่อง USB นั้น ยังคงเกิดขึ้นได้เสมอ และยังรวมไปถึงเศษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนม เศษฝุ่น ดิน อะไรก็ตามที่เข้าไปติดอยู่ข้างใน แล้วไม่ทันได้ระวัง ก็ไปเสียบหัวชาร์จเข้าไปอีก ก็ยิ่งทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าเดิม ส่งผลให้ชาร์จไม่เข้า และถ้ายิ่งปล่อยไว้นานๆ ก็อาจจะทำให้ช่องเสียบ USB พังไปเลย

วิธีแก้ไขเบื้องต้น

ถ้าหากมือถือขึ้นเตือนเป็นรูปหยดน้ำ ให้ลองพักเครื่องให้แห้งก่อน แต่ห้ามใช้ไดร์เป่าผมเป่านะ ให้เป่าด้วยลมเย็นจนกว่าจะแห้งและลองชาร์จดู แต่ถ้าแห้งแล้วยังไม่ได้อีก ต้องส่งซ่อมเพื่อเปลี่ยนอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนถ้ามีเศษฝุ่น เศษผ้าที่เข้าไปให้ใช้ไม้จิ้มฟันหรือแปรงสีฟันจิ้ม ๆ ขัด ๆ อย่างเบามือเพื่อเป็นการทำความสะอาดเอาสิ่งสกปรกออกไปเท่านี้ก็เรียบร้อย


3.  แบตเตอรี่เสื่อม

สำหรับในกรณีที่แบตเสื่อม แน่นอนว่าถ้าหากใช้มือถือมานานแล้ว หรือใช้จนเครื่องร้อนบ่อยๆ ชาร์จแบบผิดวิธี ไปจนถึงการใช้สายปลอม แบตบวม อะไรก็ตามที่เสี่ยงต่อการทำให้แบตเตอรี่เสื่อม เมื่อแบตเสื่อมไปแล้ว ไม่ว่าจะชาร์จให้นานแค่ไหนมันก็ไม่เข้า หรือบางครั้ง ชาร์จจนเต็มไปแล้ว พอถอดออกมาสักพัก ก็ลดฮวบลงไปเหมือนไม่มีการชาร์จใดใดเกิดขึ้น

วิธีแก้ไขเบื้องต้น

ถ้าเป็นมือถือรุ่นเก่า ๆ หากมีอาการแบตเสื่อมนั้นจะค่อนข้างได้เปรียบเพราะว่าอาจจะยังสามารถแกะฝาหลังถอดแบตเตอรี่ออกมาเปลี่ยนเองได้แบบชิล ๆ แต่ถ้าเป็นมือถือรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ที่ไม่สามารถถอดแบตเตอรี่เปลี่ยนเองได้ก็คงต้องเอาไปให้ที่ร้านหรือที่ศูนย์เปลี่ยนให้สถานเดียว


ถ้าหากทำตามแล้ว iPhone ยังชาร์จไม่เข้า อยู่ดี

นี้คือวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อชาร์จไฟมือถือไม่เข้า ซึ่งหากลองทำตามทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้วยังไงก็ยังชาร์จไม่เข้าอยู่ดี สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำคือการส่งมือถือเข้าศูนย์หรือเข้าร้านซ่อมมือถือ เพื่อให้ช่างตรวจสอบว่าทำไมถึง โทรศัพท์ iPhone ชาร์จไม่เข้า ห้ามแกะเครื่องหาสาเหตุด้วยตัวเอง เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้านั้นหากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอาจจะเกิดอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สินได้ ดังนั้นคุณควรเลือกร้านที่เชื่อถือได้ และมีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะด้วย

ปัญหาอาจจะอยู่ที่ตัวฮาร์ดแวร์ ซึ่งต้องส่งเครื่องเข้าซ่อม และในการส่งซ่อมนั้น ช่าง ก็จะต้องลองทำตามวิธีข้างต้นก่อนเช่นกัน ซึ่งถ้าคุณได้ลองทำมาหมดแล้ว ก็จะเป็นข้อมูลที่ดีสำหรับช่างเพื่อให้ ทำให้ไม่เสียเวลาในการตรวจสอบและส่งซ่อมน้อยลงนั้นเอง แต่คุณต้องหาร้านที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ด้วยนะ เราขอแนะนำ ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ ร้านนี้เป็นศูนย์ซ่อม iPhone ที่ไว้ใจได้ เนื่องจากมีทีมช่างที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านโทรศัพท์มือถือ เปิดให้บริการมาเป็นเวลามากกว่า 15 ปี มีอะไหล่และอุปกรณ์ มากมายรอพร้อมบริการคุณ เชื่อได้เลยว่าคุณมี iPhone ทันใช้ตามที่คุณต้องการแน่นอนเมื่อเข้ามาปรึกษาที่ ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์หรือโทรเข้ามาสอบถามก่อนได้ที่ เบอร์ติดต่อ : 097 – 249 6429



ซ่อมโทรศัพท์ แถว สี่แยกห้วยขวาง ร้านไหนดี ซ่อมเองไม่ส่งต่อ


มือถือพัง ทำไม..ต้องซ่อมที่ TECH AVENUE (เทคอเวนิว)ถึงดีที่สุด





ปิดความเห็น บน โทรศัพท์ iPhone ชาร์ทไฟไม่เข้า ทำยังไงดี?

โทรศัพท์ iPhone กล้องเสีย กล้องไม่ทำงาน ทำยังไงดี

โทรศัพท์ iPhone กล้องเสีย กล้องไม่ทำงาน ทำยังไงดี

สำหรับใครหลายๆ คน ที่ชอบการเซลฟี่เป็นชีวิตจิตใจ คงจะเป็นเรื่องไม่ดีแน่หากโทรศัพท์มือถือของคุณ กล้องเสีย หรือกล้องทำงานไม่ได้ อาการเสียของกล้องโทรศัพท์ของคุณอาจจะมีอาการดังนี้

อาการของกล้องโทรศัพท์ iPhone เสีย มีลักษณะดังนี้

  • เปิดกล้องหน้าแต่ภาพดำมืด เปิดไม่ได้
  • เปิดกล้องหน้าแล้ว ถ่ายรูปออกมาไม่ชัด
  • เปิดกล้องหน้า แล้วการสั่งการช้ามาก

ทำอย่างไรเมื่อกล้องโทรศัพท์ iPhone ใช้งานไม่ได้

หากคุณกำลังเจอปัญหาเกี่ยวกับกล้องโทรศัพท์ถ่ายรูปไม่ได้ มีการทำงานของกล้องที่ผิดปกติหรือขึ้นเป็นหน้าจอดำ คุณสามารถลองแก้ปัญหาอย่างง่ายๆ ด้วยตัวเองก่อนได้ตามขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: ทำความสะอาดเลนส์และเลเซอร์ของกล้อง

ในการทำความสะอาดเลนส์กล้องและเซนเซอร์ของเลเซอร์ ให้เช็ดบริเวณดังกล่าวเบาๆ ด้วยผ้านุ่มที่สะอาด หากรูปภาพและวิดีโอไม่ชัดหรือกล้องไม่โฟกัส ให้ทำความสะอาดเลนส์กล้อง หากโทรศัพท์มีเซนเซอร์ของเลเซอร์ ให้ทำความสะอาดเซนเซอร์ด้วย

เคล็ดลับ: กล้องอาจแจ้งให้ทราบหากตรวจพบว่าเลนส์สกปรก ดูวิธีปิดคําเตือนเลนส์สกปรก

ขั้นตอนที่ 2: รีสตาร์ทโทรศัพท์

  1. กดปุ่มเปิด/ปิดโทรศัพท์ค้างไว้
  2. แตะปิดเครื่อง
  3. เมื่อปิดโทรศัพท์แล้ว ให้กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้จนโทรศัพท์เปิดขึ้นอีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 3: ล้างแคชของแอปกล้องถ่ายรูป

  1. เปิดแอปการตั้งค่าของโทรศัพท์ การตั้งค่า
  2. แตะแอป จากนั้น ดูแอปทั้งหมด จากนั้น กล้องถ่ายรูป หากไม่เห็น “ดูแอปทั้งหมด” ให้แตะข้อมูลแอป
  3. แตะพื้นที่เก็บข้อมูลและแคช จากนั้น ล้างแคช

ขั้นตอนที่ 4: อัปเดตแอป

  • เปิดแอป Google Play Store Play Store ในโทรศัพท์
  • แตะเมนู เมนู จากนั้น แอปและเกมของฉัน
  • หากต้องอัปเดตแอป ให้แตะอัปเดต

ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบว่าแอปอื่นทำให้เกิดปัญหาหรือไม่

  1. กดปุ่มเปิด/ปิดของโทรศัพท์ค้างไว้
  2. แตะปุ่มเปิด/ปิด เปิด/ปิด ในหน้าจอค้างไว้
  3. โทรศัพท์จะเริ่มต้นในโหมดปลอดภัย คำว่า “โหมดปลอดภัย” จะแสดงที่ด้านล่างของหน้าจอ
  4. เปิดกล้องถ่ายรูปและดูว่าใช้ได้หรือไม่
  • หาก Google กล้องถ่ายรูปทำงานได้ในโหมดปลอดภัย แสดงว่าแอปอื่นอาจเป็นสาเหตุของปัญหา
  • รีสตาร์ทโทรศัพท์เพื่อออกจากโหมดปลอดภัย
  • ถอนการติดตั้งแอปที่ดาวน์โหลดมาล่าสุด
  • เปิดกล้องถ่ายรูปแล้วตรวจสอบว่าแก้ปัญหาได้แล้วหรือไม่ หากยังแก้ไม่ได้ ให้ทำขั้นตอนก่อนหน้าซ้ำ
  • หากแก้ปัญหาได้แล้ว ให้ติดตั้งแอปที่นำออกไปก่อนแอปล่าสุดอีกครั้ง
  • หาก Google กล้องถ่ายรูปไม่ทำงานในโหมดปลอดภัย ให้ดูวิธีอื่นๆ ในการแก้ปัญหาแอป


หากยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับกล้องโทรศัพท์ iPhone

หากทำตามคำแนะนำตามข้างต้นแล้ว กล้องยังไม่สามารถใช้งานได้ ให้รีบพบช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไปโดยเร็วที่สุดเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาอื่นๆ ที่เป็นไปได้เกี่ยวกับการรีเซตโทรศัพท์ iPhone กล้องเสีย อาจจะเป็นไปได้ที่เปลี่ยนกล้องหน้าตัวใหม่แล้วหาย หรือในบางครั้งเปลี่ยนกล้องใหม่ก็อาจจะไม่ช่วยให้กล้องกลับมาทำงานได้ก็มี ดังนั้นหากคุณมีปัญหาเรื่องการใช้งานกล้องหน้าไม่ได้ หรือ กล้องหน้าเสีย อย่ารอช้ารีบติดต่อเรา เรามีอะไหล่เกือบทุกรุ่นไว้รองรับปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณ

ถ้าหากลองทุกวิธีแล้วปัญหายังไม่หายไป ก็อาจต้องส่งให้ศูนย์บริการแอปเปิลหรือร้านซ่อมตรวจสอบและซ่อมดูว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรกันแน่ แต่คุณต้องเลือกร้านให้ดีด้วยนะ จะได้เป็นการจบปัญหาที่แท้จริง ร้าน Tech Avenue อาคารฟอร์จูนทาวน์ รับตรวจเช็คอาการของ iPhone ทุกอาการ ไม่ว่าเครื่องของคุณกำลังเจอปัญหาอะไรก็ตาม เราสามารถให้คำปรึกษากับคุณได้ทุกปัญหา เนื่องจากประสบการณ์ที่เราดำเนินงานด้านนี้มามากกว่า 15 ปี พร้อมทีมช่างที่ได้รับการอบรมทางด้านนี้มาโดยเฉพาะ


ซ่อมโทรศัพท์ แถว สี่แยกห้วยขวาง ร้านไหนดี ซ่อมเองไม่ส่งต่อ


มือถือพัง ทำไม..ต้องซ่อมที่ TECH AVENUE (เทคอเวนิว)ถึงดีที่สุด





ปิดความเห็น บน โทรศัพท์ iPhone กล้องเสีย กล้องไม่ทำงาน ทำยังไงดี