ปี 2023 อัพเดท อาการเสีย iPhone ไอโฟน มีอะไรบ้าง

 

อัพเดท อาการเสียยอดนิยม ของ iPhone ไอโฟน ปี 2023 

อาการเสียที่พบบ่อยใน iPhone ประกอบด้วย:

1.หน้าจอเสียหรือแตก

อาจเกิดจากการกระแทกหรือตกของโทรศัพท์ หากหน้าจอแตกเสียหรือไม่ทำงานอย่างถูกต้อง จะต้องเปลี่ยนหน้าจอใหม่

2.แบตเตอรี่ไม่ดี

อาจเกิดจากการใช้งานอย่างต่อเนื่องหรือเวลาใช้งานนาน แบตเตอรี่อาจต้องเปลี่ยนใหม่

3.ปัญหาเครือข่าย

อาจเกิดปัญหาเชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือไม่ได้ หรือสัญญาณ wifi ไม่เสถียร สาเหตุอาจเกิดจากปัญหาของโทรศัพท์หรือสภาพแวดล้อม

4.ปัญหากับการชาร์จ

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับสายชาร์จ หรือพอร์ตชาร์จบนโทรศัพท์ หากไม่สามารถชาร์จได้อย่างถูกต้อง อาจต้องเปลี่ยนอะไหล่ใหม่

5.ปัญหาด้านซอฟต์แวร์

อาจเกิดจากการใช้งานอย่างไม่ถูกต้องหรือเครื่องมืออื่นที่มีผลต่อระบบของ iPhone ให้เกิดปัญหา เช่น การติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่เหมาะสมหรือไวรัสที่เข้ามายังโทรศัพท์

6.ปัญหาเกี่ยวกับกล้องถ่ายรูป

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับเลนส์หรือเซ็นเซอร์กล้องถ่ายรูป ทำให้ภาพไม่ชัดเจน หรือไม่สามารถถ่ายภาพได้เลย อาจต้องเปลี่ยนอะไหล่ใหม่หรือซ่อมแซม

7.ปัญหาเกี่ยวกับระบบสัมผัส

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับหน้าจอสัมผัสหรือปุ่มโฮมไม่ทำงานอย่างถูกต้อง สาเหตุอาจเกิดจากการใช้งานอย่างไม่ถูกต้องหรือการสัมผัสอุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม

8.ปัญหาเกี่ยวกับเสียง

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับสตรีมเสียงหรือไม่มีเสียงเลย อาจเกิดจากปัญหาของลำโพงหรือเสียงบลูทูธ อาจต้องเปลี่ยนอะไหล่หรือซ่อมแซม

9.ปัญหาเกี่ยวกับการใช้งาน Touch ID หรือ Face ID

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้าไม่ทำงานอย่างถูกต้อง สาเหตุอาจเกิดจากฝุ่นละอองหรือความชื้นในอากาศ หากไม่สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง อาจต้องนำเข้าบริการหรือเปลี่ยนอะไหล่

10.ปัญหาเกี่ยวกับเก็บข้อมูล

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลหรือการสำรองข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ สาเหตุอาจเกิดจากความจำเต็มหรืออุปกรณ์เสียหรือไม่ถูกต้อง

11.ปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น เช่น ไม่สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ไร้สายได้ สาเหตุอาจเกิดจากการตั้งค่าไม่ถูกต้องหรือโปรแกรมไม่สมบูรณ์

12.ปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานแอปพลิเคชัน

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานแอปพลิเคชันที่ติดตั้งบน iPhone ไม่ได้อย่างถูกต้อง สาเหตุอาจเกิดจากการใช้งานอย่างไม่ถูกต้องหรือโปรแกรมไม่สมบูรณ์

13.ปัญหาเกี่ยวกับการอัปเดตซอฟต์แวร์

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการอัปเดตซอฟต์แวร์ไม่สมบูรณ์ สาเหตุอาจเกิดจากการตั้งค่าไม่ถูกต้องหรือเครื่องมืออื่นที่มีผลต่อระบบของ iPhone ให้เกิดปัญหา

14.ปัญหาเกี่ยวกับการแสดงผล

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการแสดงผลหรือความคมชัดของภาพ สาเหตุอาจเกิดจากเซ็นเซอร์หรือเลนส์ที่มีปัญหา

15.ปัญหาเกี่ยวกับการรีสตาร์ท

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการรีสตาร์ทที่ไม่สมบูรณ์หรือเครื่องไม่เปิดตัวอย่างถูกต้อง สาเหตุอาจเกิดจากการใช้งานอย่างต่อเนื่องหรือเครื่องมืออื่นที่มีผลต่อ

16.ปัญหาเกี่ยวกับการรับสัญญาณ GPS

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการรับสัญญาณ GPS ทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการสัญญาณ GPS ได้อย่างถูกต้อง

17.ปัญหาเกี่ยวกับการเข้าถึง Wi-Fi

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการเข้าถึง Wi-Fi หรือการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ไม่ได้ สาเหตุอาจเกิดจากการตั้งค่าไม่ถูกต้องหรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม

18.ปัญหาเกี่ยวกับการใช้งาน Siri

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการใช้งาน Siri ไม่ได้อย่างถูกต้อง สาเหตุอาจเกิดจากการตั้งค่าไม่ถูกต้องหรือเครื่องมืออื่นที่มีผลต่อ Siri

19.ปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Bluetooth

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Bluetooth ไม่ได้ สาเหตุอาจเกิดจากการตั้งค่าไม่ถูกต้องหรือเครื่องมืออื่นที่มีผลต่อการเชื่อมต่อ Bluetooth

20.ปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสาร

อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสารผ่านโทรศัพท์ไม่ได้ สาเหตุอาจเกิดจากปัญหาเครือข่ายหรือการตั้งค่าไม่ถูกต้อง

การแก้ไขปัญหาของ iPhone สามารถทำได้โดยการนำเข้าบริการหรือเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ โดยควรเลือกใช้บริการจากศูนย์ซ่อม iPhone ที่ได้รับการรับรองเพื่อป้องกันการเสีย

หากเจอปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ ไอโฟนของคุณ โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต การซ่อมที่ดีและปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้คือการนำเครื่องไปซ่อมที่ร้านมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ ดังนั้น ในบทความนี้เราจะแนะนำวิธีการเลือกและตรวจสอบร้านซ่อมมืออาชีพที่เหมาะสมสำหรับการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

  1. ค้นหาข้อมูลและรีวิว: หากคุณมีปัญหากับอุปกรณ์ของคุณ คุณควรเริ่มต้นด้วยการค้นหาข้อมูลและรีวิวเกี่ยวกับร้านซ่อมออนไลน์ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเหล่านี้ได้จากเว็บไซต์ของร้านซ่อม หรือบนเว็บไซต์รีวิวออนไลน์
  2. ตรวจสอบประสบการณ์: คุณควรตรวจสอบประสบการณ์ของร้านซ่อมที่คุณสนใจ การดูที่ระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจของร้านซ่อมและประสบการณ์ที่มีจะช่วยให้คุณมั่นใจในการเลือกใช้บริการของร้านนั้น
  3. ตรวจสอบการรับประกัน: คุณควรตรวจสอบว่าร้านซ่อมมีการรับประกันและมีการสนับสนุนหลังการขายหรือไม่ ร้านซ่อมที่มีการรับประกันการซ่อมและการสนับสนุนหลังการขายจะช่วยให้คุณมั่นใจในการใช้บริการของร้าน
  4. ตรวจสอบความเชี่ยวชาญ: คุณควรตรวจสอบความเชี่ยวชาญของร้านซ่อมก่อนเลือกใช้บริการ ร้านซ่อมที่มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมอุปกรณ์ของคุณจะช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพของการซ่อม
  5. ตรวจสอบการให้บริการด้วยการเข้าไปติดต่อร้านซ่อม: คุณควรลองติดต่อร้านซ่อมและถามเรื่องการให้บริการ ร้านซ่อมที่ให้การให้บริการที่ดีและมีการตอบกลับอย่างรวดเร็วจะช่วยให้คุณมั่นใจในการเลือกใช้บริการของร้านนั้น
  6. ตรวจสอบความรวดเร็วในการซ่อม: คุณควรสอบถามร้านซ่อมเกี่ยวกับเวลาในการซ่อมอุปกรณ์ของคุณ ร้านซ่อมที่สามารถซ่อมอุปกรณ์ของคุณในเวลาสั้นๆ จะช่วยให้คุณมั่นใจในการซ่อมอุปกรณ์ของคุณ
  7. ตรวจสอบค่าใช้จ่าย: คุณควรสอบถามราคาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมอุปกรณ์ของคุณก่อนเลือกใช้บริการ คุณควรเลือกร้านซ่อมที่มีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมและไม่สูงเกินไป
  8. ตรวจสอบระยะเวลาการรับซ่อม: คุณควรสอบถามระยะเวลาในการรับซ่อมอุปกรณ์ของคุณกับร้านซ่อม ร้านซ่อมที่สามารถรับซ่อมอุปกรณ์ของคุณในระยะเวลาสั้นๆ จะช่วยให้คุณไม่ต้องรอนานเพื่อการซ่อม
  1. ตรวจสอบความปลอดภัย: คุณควรตรวจสอบว่าร้านซ่อมมีมาตรการความปลอดภัยที่เพียงพอหรือไม่ เช่น การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณและการป้องกันการแฮกเข้าสู่ระบบ
  2. ตรวจสอบการติดต่อกับลูกค้า: คุณควรสอบถามว่าร้านซ่อมมีการติดต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางใดบ้าง เช่น โทรศัพท์หรืออีเมล ร้านซ่อมที่มีการติดต่อกับลูกค้าอย่างมืออาชีพจะช่วยให้คุณมั่นใจในการเลือกใช้บริการของร้านนั้น
  3. ตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์และเครื่องมือ: คุณควรตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์และเครื่องมือที่ร้านซ่อมใช้ในการซ่อมอุปกรณ์ของคุณ ร้านซ่อมที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยและครบครันจะช่วยให้การซ่อมอุปกรณ์ของคุณเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การเลือกร้านซ่อมมืออาชีพที่เหมาะสมสำหรับการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ด้วยการรับซ่อมจากร้านที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์การซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาก่อน จะช่วยให้การซ่อมอุปกรณ์ของคุณเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพสูง อย่างไรก็ตาม คุณควรตรวจสอบและเปรียบเทียบร้านซ่อมต่างๆก่อนที่จะเลือกใช้บริการ เพื่อให้ได้รับการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยที่สุดสำหรับอุปกรณ์ของคุณ

ปิดความเห็น บน ปี 2023 อัพเดท อาการเสีย iPhone ไอโฟน มีอะไรบ้าง

เครื่อง iPhone (ไอโฟน) X เปียกน้ำ ทำไงดี??

3 วิธี ง่ายๆ เช็ค iPhone (ไอโฟน) เมื่อชาตจ์แบตไม่เข้า

ประสบการณ์โดยตรง จากการทำเครื่อง iPhone (ไอโฟน) X ตกน้ำ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เครื่องดับ เปิดไม่ติด เลยทำให้รู้ว่า ควรรีบ ปรึกษาช่างผู้ชำนาญ ให้เร็วที่สุด ดีกว่าแก้ไขเองเพราะ ถ้าส่งเครื่องไปซ่อมช้า อาจจะทำให้เสียทั้งเวลา ทั้งเงินอีก เพราะ iPhone (ไอโฟน) x ของเรา อาจลามไปเสียที่อื่นอีกก็เป็นไปได้

เราได้โทรเข้าไปขอคำแนะนำ และสอบจากพี่ที่เป็นช่างของร้าน Tech Avenue เทคอเวนิว เบอร์ติดต่อ 097 249 642 พี่ให้คำแนะนำดีและน่ารักมากๆ สามารถซ่อมเครื่องของเราเสร็จ รวดเร็ว
มาดูกันเลยดีกว่าว่าวีธี แก้ปัญหาเครื่อง iPhone (ไอโฟน)X ตกน้ำเบื้องต้น ทำไงบ้าง สามารถใช้ได้กับ iPhone (ไอโฟน) ทุกรุ่น ตามนี้เลย 

3 วิธี ง่ายๆ เช็ค iPhone (ไอโฟน) เมื่อชาตจ์แบตไม่เข้า

1. ถ้าเครื่อง iPhone (ไอโฟน)  เปิดอยู่ ให้รีบปิด

ถ้าหากว่าเครื่อง iPhone (ไอโฟน) x ของเรายังเปิดทำงานอยู่ ให้รีบปิดทันที เพราะ ถ้าหากเครื่อง iPhone (ไอโฟน) ของเรายังเปิดทำงานอยู่ อาจจะทำให้แผงวงจรข้างใน ช็อต หรือ เสียหายได้ หลังจากปิดเครื่องแล้ว ใช้ผ้าแห้งเช็ด ทำความสะอาดเครื่อง iPhone (ไอโฟน) x ให้แห้งสนิท

2. เอาเครื่อง iPhone (ไอโฟน)  ไปแช่ในถังข้าวสาร

เป็นวิธีที่ค้นหามาจาก google ว่าให้เอาเครื่อง iPhone (ไอโฟน) x เปียกน้ำ และเช็ดทำความสะอาดเครื่องให้แห้ง แล้วนำไปแช่กับข้าวสาร เพื่อที่จะให้ข้าวสารดูดความชื้นในตัวเครื่องออก เราแช่ไว้ 2 วัน แล้วก็ได้นำเครื่องมาลองเปิดดู สรุปว่าเปิดเครื่องไม่ติด จอดำ มืดสนิท นิ่งไม่ตอบสนองใดๆ

3. เราโทรไปปรึกษาร้านซ่อมมือถือ เพื่อขอคำแนะนำ และ สอบถามข้อมูลส่งซ่อม

เราได้หาข้อมูลใน google เพื่อค้นหา ร้านซ่อมมืถือ iPhone (ไอโฟน) x ที่นอนนิ่งสนิทของเรา มีมากมายหลายร้านมากๆ แต่เราเลือกที่จะโทรไปปรึกษาที่ ร้าน Tech Avenue เทคอเวนิว พี่ๆพนักงานน่ารักและให้คำแนะนำดีมาก เราเลยไม่กังวลเกี่ยวกับการซ่อมเครื่องมากนัก คุยเสร็จ เราก็เข้าไปที่ร้านเพื่อนำเครื่องไปดูอาการและประเมินราคาซ่อม ตกลงราคากันเรียบร้อย ก็ใช้เวลาในการซ่อมไม่นาน แถมไม่ต้องรออะไหล่ซ่อม มีพร้อมมากๆ ทำให้เราไม่ต้องเอาเครื่องไว้ที่ร้าน ได้เครื่องกลับมาใช้งานต่อได้เลย ภายในวันนั้น

สุดท้ายนี้ เราอยากจะแนะนำเพื่อนๆว่า ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับโทรศัพท์ของเรา บางครั้งเราก็ไม่ควรลองผิด ลองถูกด้วยตัวเอง เพราะราคา iPhone (ไอโฟน) x ของเรานั้นราคาไม่ใช่ถูกๆ ถ้าเกิดส่งซ่อมช้าไป อาจเสียเงินมากกว่าเดิมแน่ๆ ถ้าใครโทรศัพท์มีปัญหา สามารถโทรเข้าไปปรึกษาพี่ๆ เพื่อสอบถามวิธีแก้อาการเบื้องต้น ที่ร้านได้เลยรับรองบริการประทับใจไม่ผิดหวังแน่นอน ลองสอบถามตามข้อมูลด้านล่างนี้ได้เลย

3 วิธี ง่ายๆ เช็ค iPhone (ไอโฟน) เมื่อชาตจ์แบตไม่เข้า

ร้านซ่อม โทรศัพท์มือถือ แถว บางกะปิ ที่ดีที่สุด

มือถือ Huawei (หัวเว่ย) nova 6 แบตบวม ซ่อมร้านไหนดี รับได้เลย

3 วิธี ง่ายๆ เช็ค iPhone (ไอโฟน) เมื่อชาตจ์แบตไม่เข้า

ร้านซ่อมมือถือ The PARQ ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ซ่อมมือถือ แถวโซน ศูนย์วัฒนธรรม ร้านไหนดี ซ่อมเร็วราคาไม่แพง

ร้านซ่อมมือถือ บางเขน รับ-ส่ง ถึงบ้าน

โทรศัพท์ยี่ห้อ OPPO (ออปโป้) มีอาการเสียอะไรบ้าง ซ่อมร้านไหนดี ราคาไม่แพง

ซ่อมมือถือ แถวโซนดินแดง ที่ไหนดี ราคาไม่แพง บริการดีมาก

ร้านเทคอเวนิว รับซ่อมมือถือ iPhone (ไอโฟน) ทุกร่น

ไม่ว่าโทรศัพท์ของคุณจะเป็นรุ่นอะไร ร้านเทคอเวนิว ก็รับซ่อมทุกรุ่น โดยยกตัวอย่างรุ่นมือถือ iPhone (ไอโฟน)ดังนี้

iPhone 12 Pro iPhone 12 Pro Max
iPhone 12 mini iPhone 12
iPhone 11 Pro iPhone SE ( รุ่นที่2)
iPhone 11 iPhone 11 Pro Max
iPhone XS iPhone XS Max
iPhone XR iPhone X
iPhone 8 , 8 Plus iPhone SE
iPhone 7 Plus iPhone 7
iPhone 6s Plus iPhone 6s
iPhone 6, 6 Plus iPhone 5C
iPhone 5S iPhone 5
iPhone 4S iPhone 4
iPhone 3GS iPhone 3G

ร้านซ่อมมือถือ วังทองหลาง บริการ รับ - ส่ง ถึงบ้าน

ตัวอย่างรีวิว อื่นๆ ของลูกค้าที่มาใช้บริการ 

เนื้อหาเพิ่มเติม ที่น่าสนใจ

ปิดความเห็น บน เครื่อง iPhone (ไอโฟน) X เปียกน้ำ ทำไงดี??